เติบโตเพื่อเราจะได้ยินพระองค์ได้ดีขึ้น
เมื่อคุณเข้าเฝ้าพระเจ้า
จำไว้ว่าพระองค์ทรงต้อนรับคุณด้วยความรัก ความเมตตา และความอ่อนโยน
อ่าน มัทธิว 17:1-8
4เปโตรทูลพระเยซูว่า “พระองค์เจ้าข้า
ดีจริงที่พวกข้าพระองค์ได้มาอยู่ที่นี่
หากทรงประสงค์ข้าพระองค์จะสร้างเพิงขึ้นสามหลัง สำหรับพระองค์หลังหนึ่ง
สำหรับโมเสสหลังหนึ่ง และสำหรับเอลียาห์หลังหนึ่ง”5เปโตรทูลยังไม่จบก็มีเมฆสุกใสมาปกคลุมพวกเขาและมีพระสุรเสียงดังจากเมฆว่า
“คนนี้คือลูกที่รักของเรา เราพอใจเขามาก จงเชื่อฟังเขาเถิด!” 6เมื่อสาวกทั้งสามได้ยินเช่นนั้นก็ล้มลงซบหน้าถึงดินตกใจกลัวยิ่งนัก
7แต่พระเยซูเสด็จมาแตะต้องพวกเขาและตรัสว่า “ลุกขึ้นเถิด อย่ากลัวเลย”
8เมื่อพวกเขาเงยหน้าขึ้นก็ไม่เห็นใครอื่นนอกจากพระเยซู
คุณเคยสังเกตไหมว่ายิ่งคุณใช้เวลากับใครสักคนมากเท่าไร
คุณก็ยิ่งเข้าใจว่าบุคคลนั้นมาจากไหนมากขึ้นเท่านั้น
ความสัมพันธ์ของเรากับพระเยซูก็คล้ายกัน เมื่อเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระองค์
เราไม่ได้อธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้เย็นชาเฉยเมยและอยู่ห่างไกล “ข้างนอกที่ไหนสักแห่ง”
แต่เรากำลังพูดคุยกับพระเจ้าผู้ทรงรักเรา ทรงค้ำจุนเรา
และหล่อหลอมเราให้เป็นไปตามพระฉายาของพระองค์
นั่นเปลี่ยนวิธีที่เราเข้าหาพระองค์ใช่ไหม
ในข้อพระคำวันนี้ เปโตร ยากอบ
และยอห์นได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพระเยซูและรู้สึกตกใจกลัว
แม้ว่าภาพนั้นจะต้องตกตะลึง
แต่ดูเหมือนว่าชายทั้งสามลืมไปชั่วขณะว่าพวกเขารับใช้กษัตริย์ผู้เปี่ยมด้วยความรักและให้อภัย
แม้ว่าการนบนอบและเคารพพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราไม่ควรกลัวพระองค์
ท้ายที่สุดแล้ว ความรักและพระคุณของพระองค์ที่ทำให้พระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดนั้นควรค่าแก่การติดตาม
เมื่อเสด็จมาหาสาวกทั้งสามคนที่ล้มลงซบหน้าถึงดิน
พระเยซู “แตะต้องพวกเขาแล้วตรัสว่า ‘ลุกขึ้นเถิด อย่ากลัวเลย’” (ข้อ 7) นั่นเป็นความกรุณา ของพระเจ้าที่เรารับใช้
และเราควรจำภาพนั้นไว้เสมอเมื่อเราใช้เวลากับพระองค์
หากคุณกำลังดิ้นรนที่จะเชื่อมต่อกับพระเจ้า
จำไว้ว่าพระองค์ทรงรักคุณ ให้อภัยคุณ และชื่นชมยินดีในคำอธิษฐานของคุณ
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น