เรื่องโง่ๆ สำหรับพวกต่างชาติ
21โดยพระปัญญาของพระเจ้า
โลกไม่อาจรู้จักพระเจ้าด้วยสติปัญญาของตน
ดังนั้นพระเจ้าจึงพอพระทัยที่จะช่วยบรรดาผู้เชื่อให้รอดโดยคำเทศนาเรื่องโง่ๆ 22พวกยิวเรียกร้องหมายสำคัญ และพวกกรีกมองหาสติปัญญา 23แต่เราเทศนาเรื่องพระคริสต์ผู้ทรงถูกตรึงตายบนไม้กางเขน
ซึ่งเป็นหินสะดุดสำหรับพวกยิวและเป็นเรื่องโง่ๆ สำหรับพวกต่างชาติ— 1 โครินธ์ 1:21-23
อัครสาวกเปาโลกำลังเขียนถึงเพื่อนคริสเตียนในเมืองโครินธ์ เมืองโครินธ์เป็นทั้งศูนย์กลางใหญ่ของวัฒนธรรมกรีกที่ดึงดูดปรัชญาและศาสนาทุกประเภทมารวมกันและเป็นเมืองที่มีความเสื่อมทางศีลธรรม
ดังนั้นสภาพแวดล้อมเช่นนี้ย่อมมีผลต่อการดำเนินชีวิตของคริสตชนชาวโครินธ์
เปาโลจึงได้เขียนจดหมายถึงพี่น้องคริสเตียนเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ
อัครสาวกเปาโลต้องการให้คริสเตียนในเมืองโครินธ์ทราบว่า ข่าวประเสริฐเป็นหลักที่ คริสเตียนควรยึดมั่นมากกว่าเรื่องอื่น
ๆ ที่กำลังเป็นปัญหาทุ่มเถียงกัน เนื่องจากอัครสาวกเปาโลทราบมาว่า
คริสเตียนในเมืองโครินธ์เกิดการแตกแยก มีการแบ่งเป็นกลุ่มคริสเตียนยิว
กลุ่มคริสเตียนกรีก และกลุ่มอื่น ๆ อีก แม้ขณะที่ประชุมร่วมกันอยู่ในคริสตจักร
การดำเนินการประชุมก็ไม่เป็นระเบียบ บางคนจะร้องเพลงสดุดี บางคนจะมีคำสั่งสอน พวกยิวเรียกร้องหมายสำคัญ
และพวกกรีกมองหาสติปัญญา เป็นต้น อัครสาวกเปาโลจึงเขียนถึงคริสเตียนในเมืองโครินธ์ว่า
"บัดนี้ ข้าพเจ้าต้องการเตือนพี่น้องทั้งหลายถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ท่าน
ซึ่งท่านก็ได้รับและยืนหยัดอยู่ได้ หากว่าท่านยึดมั่นในสิ่งที่ข้าพเจ้าประกาศแก่ท่าน
ท่านก็จะมีชีวิตรอดพ้นเพราะข่าวประเสริฐนี้ มิฉะนั้นความเชื่อของท่านจะไร้ประโยชน์
อัครสาวกเปาโลต้องการให้เกิดความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในหมู่คริสเตียน
โดยเปรียบเทียบว่า "ถ้าอวัยวะอันหนึ่งเจ็บ
อวัยวะทั้งหมดก็พลอยเจ็บด้วย ถ้าอวัยวะอันหนึ่งได้รับเกียรติอวัยวะทั้งหมดก็พลอยชื่นชมยินดีด้วย”
แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ในพระธรรม 1 โครินธ์
เป็นเรื่องของความวุ่นวายที่เกิดขึ้น และแนวทางสำหรับแก้ปัญหาเหล่านั้นก็ตาม ในพระธรรมเล่มนี้ก็ยังมีบางบทที่มีความงดงามแทรกอยู่
เช่น การเน้นถึงความสำคัญของความรัก “แม้ข้าพเจ้าจะเผยพระวจนะได้
และเข้าใจในความล้ำลึกทั้งปวงและมีความรู้ทั้งสิ้น
และมีความเชื่อมากยิ่งที่สุดพอจะยกภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก
ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย” เป็นการบรรยายถึงลักษณะของความรักที่แท้จริง
ชาวยิวหลายคนคิดว่าพระเมสสิยาห์ของพวกเขาควรเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่จะมาปลดปล่อยพวกเขาจากการปกครองแบบเผด็จการของกรุงโรม
ดังนั้น สำหรับพวกเขาแล้ว มันเป็นเรื่องน่าอายเมื่อต้องนึกถึงบุคคลนี้ที่ถูกตรึงบนไม้กางเขน
เปาโลไม่ได้รู้สึกกลัวต่ออคติและปฏิกิริยาสุดโต่งเหล่านี้
เขายังคงประกาศข่าวเรื่องของไม้กางเขน เพราะไม่มีข่าวประเสริฐอื่นใดที่เขาจะประกาศ
นอกจากข่าวสารของพระคริสต์ผู้ถูกตรึงกางเขนสำหรับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
ไม่มีข่าวดีใดยิ่งใหญ่ไปกว่าข่าวดีของพระคริสต์สำหรับคนบาป โดยการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเท่านั้นที่ทำให้เรามีชีวิต โดยพระโลหิตของพระองค์เราจึงได้รับการให้อภัยและการไถ่บาป
พระเจ้าพอพระทัยที่จะช่วยคนบาป หลายคนฟังแล้วบอกว่าเป็นเรื่องโง่เขลา
แต่ความโง่เขลานี้ฉลาดกว่าปัญญาของโลก กางเขนของพระคริสต์อาจถูกปฏิเสธโดยผู้ที่ไม่เชื่อ
แต่สำหรับเราที่เชื่อ มันคือ
“ฤทธานุภาพของพระเจ้าและพระปัญญาของพระเจ้า”
ข้าแต่พระบิดา พระราชกิจที่สำเร็จแล้วของพระเยซูเผยให้เห็นถึงพลังและสติปัญญาของพระองค์
ลูกขอบพระคุณที่ทำให้ลูกมีความเชื่อในพระเยซู ผู้ถูกตรึงกางเขนเพื่อลูกจะได้มีชีวิต
ในนามของพระพระเยซู อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
todaydevotional.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น