วันพุธที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2566

การนมัสการที่เป็นที่พอพระทัย

 




การนมัสการที่เป็นที่พอพระทัย

ความสําเร็จสูงสุดของเราจะพบได้เฉพาะต่อพระพักตร์พระบิดาในสวรรค์ของเราเท่านั้น

 

อ่าน โรม 1:21-32

21เพราะแม้ว่าพวกเขารู้จักพระเจ้า พวกเขาก็ไม่ได้ถวายพระเกียรติสิริแด่พระองค์ให้สมกับที่ทรงเป็นพระเจ้า ทั้งไม่ได้ขอบพระคุณพระองค์ แต่กลับคิดในสิ่งที่ไร้สาระ และจิตใจอันโง่เขลาของพวกเขาก็มืดมัวไป 22แม้เขาอ้างว่าตนมีปัญญา เขาก็กลับกลายเป็นคนโง่ 23และเอาพระเกียรติสิริของพระเจ้าผู้เป็นอมตะไปแลกกับรูปเคารพ ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบของมนุษย์ที่ต้องตาย สัตว์ปีก สัตว์ เลื้อยคลานและสัตว์ต่างๆ

24ฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาให้ทำบาปทางเพศตามตัณหาชั่วในใจของเขา ทำสิ่งที่น่าอัปยศทางกายต่อกัน 25เขาเอาความจริงของพระเจ้ามาแลกกับความเท็จ นมัสการและปรนนิบัติสิ่งที่ทรงสร้างแทนพระเจ้าผู้ทรงสร้าง ผู้ทรงเป็นที่สรรเสริญตลอดนิรันดร์ อาเมน

26เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงปล่อยเขาไว้ในกิเลสตัณหาอันน่าอับอาย แม้กระทั่งพวกผู้หญิงของเขาก็เปลี่ยนจากการมีความสัมพันธ์ตามธรรมชาติให้ผิดธรรมชาติไป 27เช่นเดียวกันพวกผู้ชายก็เลิกมีความสัมพันธ์ตามธรรมชาติกับผู้หญิง หันมาเร่าร้อนด้วยไฟราคะต่อกัน ผู้ชายกับผู้ชายด้วยกันประกอบกิจอันน่าอดสู เขาจึงได้รับโทษทัณฑ์อันสมควรกับความวิปริตของตน

28ยิ่งกว่านั้นเนื่องจากเขาไม่เห็นคุณค่าของการรู้จักพระเจ้า พระองค์จึงทรงปล่อยเขาให้มีจิตใจเสื่อมทราม ให้ทำสิ่งที่ไม่สมควร 29พวกเขาจึงเต็มไปด้วยความเลว ความชั่วร้าย ความโลภโมโทสันและความเสื่อมทรามสารพัดชนิด พวกเขามีแต่ความอิจฉาริษยา การเข่นฆ่า การแก่งแย่งชิงดี การล่อลวงและการคิดร้าย พวกเขาชอบนินทา 30ใส่ร้ายป้ายสี เกลียดชังพระเจ้า หยาบคาย หยิ่งยโสและโอ้อวด พวกเขาคิดหาทางใหม่ๆ ในการทำชั่ว พวกเขาไม่เชื่อฟังบิดามารดาของตน 31พวกเขาเป็นคนไร้สติ ไร้สัตย์ ไร้หัวใจ ไร้ความปรานี 32แม้เขารู้กฎเกณฑ์อันชอบธรรมของพระเจ้าว่าผู้ที่ทำเช่นนั้นสมควรตาย เขาไม่เพียงยังคงทำสิ่งเหล่านี้ต่อไป แต่ยังเห็นชอบกับผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ด้วย

อ่าน โรม 2:1-4

การพิพากษาอันชอบธรรมของพระเจ้า

1เหตุฉะนั้นท่านที่ตัดสินคนอื่น ท่านก็ไม่มีข้อแก้ตัวเลย เพราะไม่ว่าท่านตัดสินผู้อื่นด้วยประเด็นใด ท่านก็พิพากษาลงโทษตนเองด้วย เพราะท่านผู้เป็นคนตัดสินก็ยังทำอย่างเดียวกัน 2เรารู้อยู่ว่าพระเจ้าทรงตัดสินลงโทษผู้ที่ทำเช่นนี้ตามความเป็นจริง 3ดังนั้นเมื่อท่านผู้เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนตัดสินคนอื่น แต่ตัวเองยังทำแบบเดียวกับเขา ท่านคิดหรือว่าจะพ้นจากการพิพากษาลงโทษของพระเจ้าได้? 4หรือท่านหมิ่นประมาทพระกรุณาคุณ ความอดกลั้น และความอดทนอันล้นเหลือของพระองค์ ท่านไม่รู้หรือว่าพระกรุณาคุณของพระเจ้ามุ่งชักนำท่านให้กลับใจใหม่?

 

คุณรู้หรือไม่ว่าพระเจ้าทรงสร้างคุณเพื่อนมัสการพระองค์ หลายคนอุทิศชีวิตให้กับการบูชาเงิน ความนิยม ความสำเร็จ หรือความสุข แต่สุดท้ายก็ยังรู้สึกว่างเปล่า

 

กษัตริย์โซโลมอนสังเกตเห็นความปรารถนานี้ในมนุษยชาติ โดยเขียนว่าพระเจ้า “ทรงสถิตนิรันดร์ในใจ [ของเรา]” (ปัญญาจารย์ 3:11) และหลายร้อยปีต่อมา พระเยซูเองทรงยืนยันความจริงนี้เมื่อพระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดก็ตามที่ดื่มน้ำซึ่งเราจะให้แก่เขานั้นจะไม่กระหายอีกเลย แต่น้ำที่เราจะให้แก่เขานั้นจะกลายเป็นน้ำพุในตัวเขาซึ่งพลุ่งขึ้นถึงชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 4:14) ทำไมคุณยังสงสัยความจริงในข้อนี้? ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าพระเจ้าต้องการมีเวลาและความสัมพันธ์เป็นการส่วนตัวกับเราทุกคน

 

น่าเสียดายที่เรามักหลงระเริงไปกับความบาปมากกว่าที่จะนมัสการพระเจ้า และในบทแรกของพระธรรมโรม เปาโลได้สำรวจพระเจ้าที่ด้อยกว่าที่เรานับถือ เขาต้องการให้ชาวโรมันรู้ว่าความบาปและเทพเจ้าเทียมเท็จได้ดึงความสนใจของเราไปจากการทรงเรียกนิรันดร์ที่จะทำให้เราร่วมเป็นหนึ่งกับพระบิดา นั่นเป็นเหตุผลที่การกลับใจเป็นการปฏิบัติที่สำคัญในชีวิตของผู้เชื่อ

 

โปรดจำไว้ว่าพระบิดาในสวรรค์ของเราทรงออกแบบให้เราพบความพอใจในพระองค์แต่ผู้เดียว และเนื่องจากความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ที่มีต่อโลกทั้งใบ พระองค์จึงไม่ต้องการให้ใครใช้เวลาชั่วนิรันดร์โดยปราศจากพระองค์ (2 เปโตร 3:9  องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเชื่องช้าที่จะทำตามพระสัญญาอย่างที่บางคนคิด แต่ทรงอดทนต่อท่านเพราะพระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่ )

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

  intouch.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...