พระเมตตาของพระเจ้า
พระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเมตตาจะทรงอยู่กับเราเสมอในยามทุกข์ยาก
22เพราะความรักใหญ่หลวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าเราจึงไม่ถูกผลาญทำลายไป
เพราะพระเมตตาของพระองค์ไม่เคยยั้งหยุด
23มีมาใหม่ทุกเช้า
ความซื่อสัตย์ของพระองค์ยิ่งใหญ่นัก
24ข้าพเจ้ากล่าวกับตนเองว่า
“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นทั้งหมดที่ข้าพเจ้ามี
ฉะนั้นข้าพเจ้าจะรอคอยพระองค์”
25
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงดีต่อผู้ที่ฝากความหวังไว้กับพระองค์
ทรงดีต่อผู้ที่แสวงหาพระองค์
26เป็นการดีที่จะสงบรอคอย
ความรอดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทาน
เพลงคร่ำครวญ 3:22-26
เรามักจะนึกถึงความดีของพระเจ้าในแง่ของพระพรที่จับต้องได้
แต่เราไม่ควรรู้สึกว่าเราได้รับความรักก็ต่อเมื่อสถานการณ์ของเราเป็นไปในเชิงบวกเท่านั้น
เพราะความจริงแล้ว
ความดีของพระองค์มักจะอุดมสมบูรณ์ที่สุดในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเรา (อิสยาห์
43:1-2)
วิธีหนึ่งที่พระเจ้าสำแดงความดีคือผ่านพระเมตตาของพระองค์
ตลอดพระกิตติคุณ
เราเห็นพระเจ้าเปี่ยมด้วยความเมตตาและทรงปฏิบัติต่อผู้คนที่กำลังทนทุกข์
พิจารณาชายผู้ถูกผีเข้าสิงที่พระเยซูทรงพบในดินแดนเกราเซน เขาดูแหลกสลายทั้งกายและใจ
เดินเปลือยกายอยู่ท่ามกลางอุโมงค์ฝังศพ (ลูกา 8:26-39)
ผู้คนที่นั่นมัดเขาด้วยโซ่และตรวน เฝ้าเขาไว้ ไม่ใช่เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของชายคนั้น แต่เพื่อเป็นผลดีแก่พวกเขาเอง และเท่าที่เรารู้ ไม่มีใครเคยพยายามบรรเทาความทุกข์ของชายผู้นั้นเลย
แต่นี่คือสิ่งที่พระเยซูทำ พระองค์ไม่เพียงขับผีออกเท่านั้น
พระองค์ทรงสวมเสื้อให้กับชายคนนั้นด้วยและพูดคุยกับเขา
เราอาจคิดว่าการรักษาอย่างน่าอัศจรรย์นั้นก็มากเกินพอ แต่พระเยซูไม่ได้ทำเช่นนั้นพระองค์ยังทรงคืนความเป็นมนุษย์ให้เขาโดยการดูแลความต้องการทางร่างกายของเขาและต้อนรับเขากลับเข้าสู่ชุมชนอีกครั้ง
นั่นคือลักษณะของความดีของพระเจ้า ความรักที่ไม่มีขีดจำกัด (เอเฟซัส 2:4-7)
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น