อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน
วันที่ 82 โซ่แห่งความสมบูรณ์แบบ
4ผู้ใดมัวสังเกตลมก็จะไม่หว่านพืชและผู้ใดที่มองเมฆก็จะไม่เก็บเกี่ยว
5ท่านไม่หยั่งรู้ทางของลม หรือไม่รู้ว่าร่างกายถูกปั้นขึ้นมาในครรภ์มารดาได้ฉันใด
ท่านก็ไม่อาจเข้าใจพระราชกิจของพระเจ้า พระผู้สร้างสรรพสิ่งฉันนั้น
6จงหว่านเมล็ดพืชของท่านในยามเช้าและเมื่อตกเย็นก็อย่าให้มือของท่านว่างงาน
เพราะท่านไม่รู้ว่างานไหนจะสำเร็จ งานนั้นหรืองานนี้หรือทั้งสองงานจะเจริญดีเหมือนกัน
ปัญญาจารย์ 11:4-6
ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี เราถูกกระหน่ำด้วยทางเลือกสารพัด
อาทิ ดูนี่สิ อ่านนั่นสิ ฟังนี่สิ สังคมของเราท่วมท้นไปด้วยสื่อและความบันเทิง
อิทธิพลที่สื่อมีต่อความเชื่อ ความนึกคิด และการ กระทำของเราแยบยลแต่มีพลัง
สิ่งที่เรายอมใส่เข้ามาในความคิดเราจะหล่อหลอมตัวเรา—ให้เราเป็นอย่างที่เราคิด บทสรุปอันน่าหนักใจคือสื่อที่เราเลือกบริโภคจะมีผลต่อเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าดีหรือร้าย
ไม่มีใครมีภูมิคุ้มกันอิทธิพลของสื่อ
เราคาดไม่ได้ว่าจะหมกมุ่นกับสื่อที่ออกแบบไว้ให้มีผลต่อเราทางใจและทางอารมณ์โดยไม่รับอิทธิพลของสื่อนั้นไว้ในจิตใต้สำนึกของ
สื่อจะมีอิทธิพลต่อความนึกคิดของเราตลอดเวลา
ไม่ว่าเราจะจัดการหรือไม่จัดการกับผลกระทบของมัน
สื่อบันเทิงสามารถมีอิทธิพลต่อความนึกคิดของเราได้เมื่อเราหันไปใช้สื่อนั้นคลายเครียดจากชีวิตประจำวัน
เรามักใช้ความบันเทิงเป็นเครื่องหย่อนใจชั่วคราวจากความทุกข์ประจำวัน
ไม่ว่าจะผ่านภาพยนตร์ หนังสือ โทรทัศน์ นิตยสาร หรือดนตรี
ถึงแม้เราจะใช้สื่อบันเทิงเพื่อผ่อนคลาย แต่เราต้องไม่ผ่อนคลายมาตรฐานของเรา
นั่นเป็นเวลาที่เราต้องระวังสิ่งที่เรายอมให้เข้ามาในความคิดของเรา
ด้วยการนำเสนอของสื่อที่รวดเร็วและทันสมัยจึงเข้าถึงคนทุกเพศทุกวัยได้ง่ายขึ้น
บางครั้งตัวเราเองก็เผลอปล่อยใจให้สื่อควบคุมและมีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของเรายกตัวอย่างง่าย
ๆ เรื่องเทรนการแต่งตัว เทรนการใช้ชีวิตติดหรู
การดูเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เราไม่อาจปฏิเสธมันได้เพราะมันเกิดขึ้นจริงแล้ว
บางครั้งเราเสพสื่อมากจนทำให้เกิดความอยาก และนำไปสู่การทำตามเพื่อให้ได้มาของสิ่งเหล่านั้น
หลายคนยอมทำหลายสิ่งอย่างที่ขัดต่อพระบัญญัติของพระเจ้า
โดยที่เราหลงคิดว่าการมีสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นจะทำให้เราดูดี ดูสมบูรณ์แบบขึ้น
ผู้คนจะประทับใจในตัวเรามากขึ้น จดจำเรามากขึ้น เราจึงพยายามทำตัวเองให้กลมกลืนไปกับโลกเพื่อให้เราได้รับการยอมรับ
เราพยายามสร้างความประทับใจให้กับคนที่พบเห็น จนบางครั้งสิ่งเหล่านั้นมันบดบังบังตัวตนที่แท้จริงของเราไป
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าสำหรับพระเจ้าแล้ว พระองค์ไม่ได้คาดหวังความสมบูรณ์แบบเหล่านั้นจากเราเลย
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราต้องการสร้างความประทับใจให้แก่คนรอบข้าง
แต่ถึงเวลาแล้วที่จะถามตัวเองว่าคุณพยายามสร้างความประทับใจให้ใครและทำไม? ลองถามตัวเองว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับการพยายามที่จะทำให้คนอื่นประทับใจ
รวมถึงพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง?
หากคุณพบว่าตัวเองมีโซ่แห่งความพอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่และพอเพียงนั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว
แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่กำลังพยายามสร้างความประทับใจให้คนอื่นอยู่ก็ถึงเวลาพิจารณาลำดับความสำคัญของคุณแล้ว
ความรับผิดชอบแรกที่คุณควรให้ความสำคัญคือพระเจ้าผู้สร้างคุณและพระบุตรของพระองค์ผู้ที่ช่วยคุณให้รอด
สองคือสำรวจตัวเองว่าคุณมีความรับผิดชอบที่มีประสิทธิภาพต่อครอบครัวของคุณมากพอหรือยัง?
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พระเจ้าทรงชื่นชอบนั้นเป็นเพียงเรื่องของการเชื่อฟังพระบัญญัติและยอมรับพระบุตรของพระองค์
ข้อคิด
จงยอมรับความไม่สมบูรณ์ของคุณเอง: ท่านนักบุญเปาโลเรียนรู้สิ่งนี้หลังจากพยายามเชื่อฟังพระบัญญัติให้สมบูรณ์แบบอยู่หลายปี
ท่านได้พบว่าพระเยซูเป็นผูู้เปลี่ยนทุกสิ่ง (กาลาเทีย.1:11-16) ท่านเปาโลรู้ดีว่าถ้าหากความพยายามของท่านทำให้ท่านเป็นคนสมบูรณ์และคืนดีกับพระเจ้าได้
“พระคริสต์ก็ทรงสิ้นพระชนม์โดยเปล่าประโยชน์”
เมื่อท่านตายต่อการพึ่งพาตัวเอง
ท่านก็จะมีประสบการณ์กับการมีพระเยซูอยู่ในชีวิต ภายใต้ความไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้น
ท่านจึงจะสามารถมีประสบการณ์ในฤทธิ์อำนาจอันสมบูรณ์แบบของพระเจ้า ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ต้องต่อต้านความบาป
แต่หมายความว่าเราต้องเติบโตฝ่ายวิญญาณโดยหยุดพึ่งพากำลังตัวเอง
เราจะเติบโตไปตลอดชีวิต เมื่อเราถ่อมใจยอมรับว่าเราต้องการพระองค์ผู้สมบูรณ์แบบ
พระคริสต์ก็จะทรงสถิตในใจเรา หยั่งรากในพระองค์ แล้วเราจะเติบโตลงลึกในความรัก
“ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่า” ที่จะ“เข้าใจอย่างเต็มเปี่ยม”
จงจำไว้ว่า เมื่อท่านตายต่อการพึ่งพาตัวเอง ท่านก็จะมีประสบการณ์กับการมีพระเยซูอยู่ในชีวิต ภายใต้ความไม่สมบูรณ์แบบเท่านั้น ท่านจึงจะสามารถมีประสบการณ์ในฤทธิ์อำนาจอันสมบูรณ์แบบของพระเจ้า ที่สำคัญคุณไม่จำเป็นต้องพยายามที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้อื่น
เพราะคุณเป็นคนที่น่าประทับใจสำหรับพระเจ้าอยู่แล้ว
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
churchofjesuschrist.org
thaiodb.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น