วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563

การเลือกที่ฉลาดสุขุม




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 63  การเลือกที่ฉลาดสุขุม
ข้าพเจ้าได้ตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน ขอให้ท่านเลือกเอาชีวิตเถิดเพื่อท่านกับลูกหลานจะมีชีวิตอยู่ 20และเพื่อท่านจะรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์และยึดมั่นในพระองค์ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นชีวิตของท่านและจะทรงให้ท่านมีชีวิตอยู่ยาวนานในดินแดนที่ทรงปฏิญาณว่าจะประทานแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19-20

ในทุกวันเรามีเรื่องต้องตัดสินใจหลายเรื่อง. คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อต้องตัดสินใจ? บางคนชอบตัดสินใจทุกเรื่องด้วยตัวเอง. พวกเขาคิดว่ามีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจทุกเรื่องด้วยตัวเองและไม่ชอบให้ใครมาตัดสินใจแทนเขา. แต่บางคนกลัวที่จะตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ. บางคนหาคำแนะนำจากหนังสือหรือจากผู้ให้คำปรึกษาและแม้แต่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อจะได้รับความช่วยเหลือในการตัดสินใจ. พวกเราหลายคนรู้ว่าแม้เราไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจในบางเรื่อง แต่ก็มีหลายเรื่องในชีวิตที่เราตัดสินใจเองได้. อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมหรืออย่างที่เป็นประโยชน์ได้ทุกเรื่อง.

เพราะเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเสรีในการเลือก - และมีทางเลือกมากมาย เมื่อเราทำการเลือกที่เป็นที่พอพระทัยพระบิดาของเรา เราจะได้รับพระพร เมื่อเราทำการเลือกที่มาจากการเดินตามรอยเท้าของพระบุตรของพระองค์เราก็จะพบกับความอุดมสมบูรณ์ที่พระคริสต์ได้สัญญาไว้กับคนที่ติดตามพระองค์ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราทำการเลือกที่ขัดต่อพระเจ้า เราก็ต้องเตรียมใจรับการเก็บเกี่ยวผลขมของมัน

ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า เรามีความสุขที่พระองค์ได้ประทานคำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องสำคัญๆในชีวิตเรา. เรารู้ว่าถ้าเราทำตามคำแนะนำของพระองค์ เราจะตัดสินใจอย่างที่ทำให้พระเจ้าพอพระทัยและทำให้ตัวเราเองได้รับประโยชน์. ไม่มีใครในพวกเราที่เกิดมาสมบูรณ์พร้อมในด้านความคิดจิตใจ. เพราะเราทุกคนเป็นคนบาปและไม่สมบูรณ์ เราจึงมีปัญหาสุขภาพและไม่สามารถตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมได้อย่างแท้จริง ในฐานะคริสตชน เราต้องคิดหาเหตุผล และทำอย่างถูกต้อง. เราต้องฝึกควบคุมความคิดและความรู้สึกของเรา และเลียนแบบวิธีที่พระเจ้าทรงคิด รู้สึก และทำ. ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่เราต้องตัดสินใจ เราจำเป็นต้องค้นดูในพระคัมภีร์เพื่อจะรู้ว่าพระเจ้าทรงคิดอย่างไรในเรื่องนั้นเพื่อเราจะตัดสินใจอย่างที่สอดคล้องกับความคิดของพระองค์. ถ้าเราต้องการจะตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุม เราต้องเลียนแบบวิธีคิดของพระองค์

วันนี้ในขณะที่คุณเผชิญกับความท้าทายในชีวิตประจำวันคุณจะต้องมีเรื่องให้ต้องตัดสินใจหลายสิบอย่าง จงเลือกอย่างชาญฉลาด จงทำให้ความคิดและการกระทำของคุณเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า และจำไว้ว่า: ทุกทางเลือกที่ขัดต่อพระองค์คือทางเลือกที่ผิดและไม่มีข้อยกเว้น

ข้อคิด
ให้เราทูลขอพระเจ้าช่วยเราในการเลือกอย่างฉลาดเลือกที่เป็นที่พอพระทัยพระองค์ ขอพระเจ้าให้ช่วยเราให้ซื่อสัตย์-อดทนและมีน้ำใจดีต่อเพื่อมนุษย์ และเหนือสิ่งอื่นใดขอให้พระเจ้าช่วยให้เราสามารถทำตามคำสอนของพระเยซูไม่ใช่แค่วันนี้ แต่เป็นในทุกวัน


ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
jw.org

การมองโลกในแง่ดี




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
วันที่ 124 การมองโลกในแง่ดี
ข้าพเจ้าทำทุกสิ่งได้โดยพระองค์ผู้ประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า
ฟิลิปปี 4:13

พระเจ้าอยากให้เรามีความสุข พระองค์ให้สิ่งดี ๆ หลายอย่างแก่เราเพื่อเราจะมีความสุข เช่น ให้ชีวิตและลมหายใจเราและชักนำเราเข้ามานมัสการพระองค์ เราจึงสามารถใช้ชีวิตเพื่อสรรเสริญพระองค์  พระเจ้ารับรองกับเราว่าพระองค์รักเราและจะช่วยเราให้รับใช้พระองค์และอดทนต่อ ๆไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บางครั้งแม้เราจะเชื่อใจในพระเจ้าแต่เราก็อาจพลาดตกอยู่ในกับดักแห่งความกังวล-ความหงุดหงิด-วิตกกังวลหรืออ่อนเพลียจนหัวใจของเรารู้สึกหนักอึ้ง และสิ่งที่เราต้องการมากที่สุดคือการพักผ่อนอย่างเต็มที่ -มุมมองที่ถูกต้องและการเยียวยารักษาจากพระเจ้า   ดังนั้นให้เราทำสัญญากับตัวเองไว้เลยว่า; นับจากนี้เราจะเป็นคริสตชนที่เต็มไปด้วยความหวัง มองบวกและคิดแต่ในแง่ดีเกี่ยวกับชีวิต -อาชีพการงาน และอนาคตของตัวเอง  จะให้ความเชื่อและความหวังมาแทนที่ความกลัวของเรา และจะใช้เวลาในการเฉลิมฉลองพระสิริอันรุ่งโรจน์ของพระเจ้าด้วยใจยินดีและขอบพระคุณ จากนั้นเมื่อคุณเติมเต็มหัวใจด้วยความหวังและความปิติยินดี ให้คุณแบ่งปันการมองโลกในแง่ดีกับผู้อื่นด้วย

เราสามารถใช้พระคัมภีร์ตรวจดูตัวเองว่าเรามีความเชื่อที่มั่นคงและมีค่าสำหรับพระเจ้าหรือไม่? และในโลกของซาตานนี้เราคงไม่สามารถขจัดความคิดในแง่ลบออกไปได้ทั้งหมด แต่ถ้าเราทุกคนพยายามรับใช้อย่างซื่อสัตย์และอดทนต่อ ๆไป เราจะทำให้พระเจ้ามีความสุขและทำให้ตัวเราเองได้รับชีวิตนิรันดร์

ข้อคิด
วันนี้ (และทุกวัน) ถึงเวลาที่คุณต้องนั่งนับพระพรของคุณตลอดเวลาที่ผ่านมาและคิดในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตของคุณ  พระเจ้าบอกไว้ชัดเจนในพระคัมภีร์ว่าพระองค์จะอยู่เคียงข้างเราเมื่อเรารู้สึกแย่หรือทุกข์ใจ พระเจ้าอยู่กับเราโดยทางพระวจนะของพระองค์ ในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ช่วยเราให้มองในแง่ดีและคิดบวกอยู่เสมอได้ คุณเองจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้และรู้วิธีให้กำลังใจคนอื่นด้วย

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
 jw.org

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563

คนที่ควบคุมใจของตนก็ดีกว่าคนที่ตีเมืองได้




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
วันที่ 123 คนที่ควบคุมใจของตนก็ดีกว่าคนที่ตีเมืองได้

32เป็นคนอดทนก็ดีกว่าเป็นวีรบุรุษสงคราม
คนที่ควบคุมใจของตนก็ดีกว่าคนที่ตีเมืองได้
สุภาษิต 16:32

สมัยโบราณประเทศที่มีความเข้มแข็ง จะต้องมีนักรบที่เก่งกล้าที่เราเรียกว่าวีรบุรุษสงคราม  แต่สำหรับชีวิตมนุษย์เรา กำแพงป้องกันชีวิตคือ การควบคุมอารมณ์ ควบคุมกิเลสตัณหา ควบคุมความ โลภ โกรธ หลง ถ้าสิ่งที่กล่าวมาแล้วไม่สามารถควบคุมได้ ชีวิตผู้นั้นจะอับปางลง 

การรู้จักดูแลควบคุมใจตนเองเปรียบเสมือนสหายของเดินทาง หากเราฉลาดเราต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์-ความปรารถนา-และแรงกระตุ้นของเรา เมื่อเราทำเช่นนั้นได้ เราก็จะได้รับพระพร   ถ้าเราปล่อยให้ความโลภควบคุมเรา เราจะไม่รู้จักคำว่า “พอใจในสิ่งที่มีอยู่” ความโลภที่ไม่มีขีดจำกัดปล่อยใจตัวเองจดจ่ออยู่ที่เรื่องเงินทองเท่านั้น และมันยังรวมถึง ความอยากได้ในสิ่งที่ที่ไม่ใช่ของตน ..ความโกรธหมายถึงอารมณ์ความฉุนเฉียว เคียดแค้น จนนำไปสู่ความรุนแรงทั้งทางวาจาและการกระทำ  ความหลง หลงในรูป หลงในกลิ่น หลงในเสียง เมื่อเราลุ่มหลงในใครหรือสิ่งใดเรากลายเป็นคนหูหนวกและตาบอด ไม่รับรู้เหตุผล ทั้งนี้รวมทั้งความลุ่มหลงในการเชื่อหมอดูดวง จนขาดเหตุผลแห่งตน

คุณพร้อมที่จะปรับปรุงชีวิตของคุณหรือยัง? อาจเริ่มจากการควบคุมความอยากของคุณและยับยั้งแรงกระตุ้นของคุณให้ได้ก่อน การควบคุมเป็นเรื่องยากก็จริง แต่ถ้าคุณทำได้ คุณจะได้พบว่าผลดีจากการรู้จักควบคุมใจตนเองมีพระพรมากมายรอคุณอยู่   ไม่มีใครสามารถบังคับคุณได้ มีแต่ตัวคุณเองเท่านั้น จงตัดสินใจที่จะมีชีวิตและรู้จักควบคุมอารมณ์ (อย่างชาญฉลาด) มันเป็นสิทธิ์ของคุณคนเดียว  

ข้อคิด
หากเรากำลังพยายามปกครองตนเอง หากเราพยายามต่อไป และไม่ล้มเลิก เราจะได้ชัยชนะ อย่างแน่นอน  งานของเราคือเอาชนะและข่ม พร้อมทั่งอบรมสั่งสอนตนเอง จนกว่าเราจะนำทุกสิ่งมาอยู่ ภายใต้กฎของพระคริสต์  บุคคลที่ชอบธรรมจะไม่มีวันท้อแท้ แต่จะต่อสู้กับความอยากที่ชั่วร้ายของเขาโดยไม่หยุด และต่อสู้กับความชั่วร้ายที่มีอยู่ในครอบครัวและละแวกบ้านของเขา

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
romyenchurch.org

จงฟังคำแนะนำและรับคำตักเตือน




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
บทเรียน 122 จงฟังคำแนะนำและรับคำตักเตือน
จงฟังคำแนะนำและรับคำตักเตือน
เพื่อในที่สุดเจ้าจะได้เป็นหนึ่งในบรรดาคนฉลาด
สุภาษิต 19:20

เรา​ทุก​คน​ต่าง​ก็​เคยพลาด​พลั้ง​กัน​หลาย​ครั้ง.” เรา​อาจ​คิด​ถึง​หลาย​สิ่ง​หลาย​อย่าง​ที่​เรา​บกพร่อง​ไป เราไม่​ได้​เป็นปฏิบัติตามที่​พระวจนะของ​พระเจ้า​กระตุ้น​ให้​เรา​เป็น.พระวจนะ​ของ​พระเจ้า​มี​ประสบการณ์​ชีวิต​จริง​ของ​บุคคล​ซึ่ง​ได้​รับ​คำ​แนะ​นำ​ที่​จำเป็น. บาง​ครั้งคำ​แนะ​นำก็มี​ควบ​คู่​ไป​กับ​การ​ตี​สอน 

เหตุ​ใด​เรา​จึง​รู้สึก​ว่า​ยาก​ที่จะ​รับ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ? ปัญหา​พื้น​ฐาน​คือ​ความ​หยิ่ง แต่​ละ​คน​ต่าง​ก็​คิด​ถึง​ตัว​เอง​มาก​เกิน​ไป. หลาย​คน​นำ​ความ​เศร้า​ใจ​มา​สู่​ตัว​เอง​เพราะ​ลักษณะ​นิสัย​อย่าง​นี้. ดู​เหมือน​พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​การ​รับ​ฟัง​คำ​แนะ​นำ​บ่ง​ชี้​ถึง​ข้อ​บกพร่อง​บาง​อย่าง​ใน​ตัว​เขา หรือ​ทำ​ให้​เขา​เสีย​ชื่อเสียง. แต่​ความ​หยิ่ง​คือ​ความ​อ่อนแอ. ความ​หยิ่ง​ครอบ​งำ​ความ​คิด​ของ​คน​เรา จึง​ทำ​ให้​คน​เรา​มี​แนว​โน้ม​ที่​จะ​แข็ง​ขืน​ต่อ​ความ​ช่วยเหลือ​ที่​พระเจ้าทรง​จัด​เตรียม​โดย​ทาง​พระวจนะของพระองค์​

เมื่อเราต่อต้านคำสั่งของพระเจ้าแต่พระองค์จะยังคงสอนไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นความท้าทายของเราคือการมองให้เห็นบทเรียนของพระเจ้าจากประสบการณ์ชีวิตประจำวัน หวังว่าเราจะได้เรียนรู้บทเรียนเหล่านั้นเร็วขึ้น เพราะยิ่งเร็วเท่าไร เราก็ยิ่งสามารถเรียนรู้บทเรียนต่อไปและต่อไปได้เร็วขึ้นและต่อไป ...

เพื่อ​จะ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​พระ​เจ้าและ​กับ​พี่​น้อง​คริสตชน เรา​ต้อง​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​บาง​อย่าง ซึ่งพระ​เยซู​ทรง​ชี้​ถึง​คุณลักษณะ​อย่าง​หนึ่งคือการ​เป็น​เหมือน​เด็ก​เล็ก ๆ,นอกจากที่เรา​รู้​ว่า​เรา​ต้อง​ถ่อม​ใจ​จำเพาะ​พระเจ้าแล้ว  เรายัง​ต้อง​ถ่อม​ใจ​กับ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ด้วย. ถ้า​เรา​ทำ​เช่น​นั้น เรา​จะ​ไม่​ขุ่นเคือง​เมื่อ​ผู้​อื่น​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​เหมาะ​สม​แก่​เรา แต่​จะ​เรียน​จาก​พวก​เขา

ข้อคิด
ไม่มีคำว่าสิ้นสุด สำหรับการเรียนรู้ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่   เนื่อง​จาก​พวก​เรา​ทุก​คน​ล้วน​เป็น​คน​บาป เรา​จำ​ต้อง​เปลี่ยน​เจตคติ​และ​ความ​ประพฤติ​ของ​เรา​หาก​เรา​ต้องการ​สะท้อน​บุคลิกภาพ​ของ​พระเจ้า. เรา​ต้อง​สวม “บุคลิกภาพ​ใหม่ และแหล่ง​พื้น​ฐาน​ของ​คำ​แนะ​นำ​สั่ง​สอน​ที่​เรา​ต้อง​มี​คือ​พระคัมภีร์​นั่น​เอง  ด้วย​ความ​ห่วงใย​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก พระเจ้า​ทรง​ช่วย​เรา​รับมือ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ. หลาย​ล้าน​คน​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​โดย​ทาง​การ​ศึกษาพระ​คัมภีร์​ที่​บ้าน  พระเจ้าทรงสามารถใช้คนอื่นสอนเราเรื่องพระปัญญาของพระองค์ได้ ซึ่งอาจเป็นเพื่อน คู่สมรส นักบวชชาย-หญิง  หรือเพื่อนร่วมงานก็ได้ พระธรรมสุภาษิตบอกไว้ว่า “ปัญญาอาศัยอยู่ในความคิดของคนที่มีความเข้าใจ” (สุภาษิต 14:33) วิธีหนึ่งที่จะรับรู้ปัญญาที่มาจากพระวิญญาณได้ คือการฝึกฟังและเรียนรู้จากกันและกัน​เป็น​เอกภาพ.

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
wol.jw.org

ผู้ใดอยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 62 ผู้ใดอยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้า
16เช่นนี้เราจึงรู้และเชื่อมั่นในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา
พระเจ้าทรงเป็นความรัก ผู้ใดอยู่ในความรักก็อยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าทรงอยู่ภายในเขา
1 ยอห์น 4:16

ความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์นั้นเกินที่มนุษย์จะหยั่งถึง เมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่า “พระเจ้าทรงรักโลก” นั่นไม่ได้หมายถึง เนินเขา ภูเขา พืชพรรณ แม่น้ำ ฯลฯ โลกที่พระองค์ทรงรักนั้นคือโลกของมนุษย์ คือคุณ พระองค์ทรงรักเรามากจนได้ส่งพระเยซูมารับความผิดบาปแทนเราบนไม้กางเขน ดังนั้นเราจึงสามารถเข้าสู่ที่แห่งความชอบธรรมของพระองค์ได้ “พระเจ้าทรงทำพระองค์ผู้ทรงไม่มีบาปให้บาป เพราะเห็นแก่เรา เพื่อเราจะได้เป็นคนชอบธรรมของพระเจ้าทางพระองค์” ( 2 โครินธ์ 5:21)

เมื่อคุณและคู่สมรสยกให้พระคริสต์ครอบครองชีวิตและการแต่งงานของคุณ คุณจะถูกเปลี่ยน คุณจะรู้สึกแตกต่างไปเลยเกี่ยวกับตัวคุณและชีวิตการแต่งงาน-ครอบครัวและโลกของคุณ เมื่อคุณและคนที่คุณรักรู้สึกถึงการสถิตอยู่ของพระเจ้าและเชื้อเชิญให้พระบุตรของพระองค์เข้ามาปกครองหัวใจและครอบครัวของคุณ ครอบครัวของคุณจะได้รับพรนิรันดร์

พระเจ้าทรงรักโลกนี้มากจนต้องส่งพระเยซูคริสต์ลงมาเกิดเป็นมนุษย์และตายเพื่อไถ่บาปให้กับชาวเรา และตอนนี้มีเพียงคำถามเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่: คุณและคู่สมรสของคุณจะทำอะไรเพื่อตอบสนองต่อความรักของพระเจ้าบ้าง? คำตอบควรชัดเจน: ถ้าคุณยังไม่ได้ทำตอบรับพระเยซูคริสต์เข้ามาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคุณ พระองค์กำลังรอคุณอย่างอดทน แต่โปรดอย่าทำให้พระองค์รอนานอีกเลย

ข้อคิด
ให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับความรักของพระองค์ ความรักของพระองค์ไม่มีขอบเขต-ไม่มีที่สิ้นสุดและเป็นนิรันดร วันนี้เราต้องหยุดหาเวลาเงียบสงบสักครู่เพื่อไตร่ตรองถึงความรักที่พระองค์มีต่อเราและเราต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรักนี้กับผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา และในฐานะที่เป็นลูกของพระเจ้า ให้เราได้แสดงออกถึงความรักที่เรามีต่อพระองค์ผ่านทางการแบ่งปันข่าวประเสริฐของพระคริสต์กับโลกนี้ ดำเนินชีวิตทุกวันในความรัก ด้วยความตระหนักรู้ในความรักที่ไม่มีวันสูญสิ้นที่มีต่อคุณ


ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
rorthai.com

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2563

การได้พักสงบในฝ่ายจิตวิญญาณ




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 61 การได้พักสงบในฝ่ายจิตวิญญาณ
30ฝ่ายอัครทูตมาเข้าเฝ้าพระเยซูและทูลรายงานสิ่งทั้งปวงที่พวกเขาได้ทำและสั่งสอน 31เนื่องจากขณะนั้นมีผู้คนไปๆ มาๆ กันแน่นขนัดจนพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะรับประทานอาหาร พระองค์จึงตรัสกับเหล่าสาวกว่า “ท่านทั้งหลายจงตามเราไปหาที่สงบพักกันสักหน่อยเถิด”
มาระโก 6:30-31

บางครั้งความต้องการในชีวิตประจำวันของเราก็สามารถทำให้เราหมดเรี่ยวแรงและมันสามารถปล้นเอาสันติสุขไปจากเราด้วย เมื่อเราพบว่าตัวเองเหนื่อยท้อแท้ อย่าลืมว่าเรายังมีที่ที่สามารถชาร์จพลังงานให้กับฝ่ายจิตวิญญาณของเราได้นั่นคือ การเข้าหาพระเจ้า

การได้หยุดพักอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงอาการหมดแรงกายแรงใจหรือท้อแท้ จากพระคัมภีร์ตอนนี้ เมื่อเราทำตามหน้าที่ความรับผิดชอบของเราอย่างเต็มที่แล้ว เราจะต้องไม่ลืมที่จะพักผ่อนด้วย ทั้งการนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละวัน และการมีอย่างน้อย 1 วันในสัปดาห์ที่จะหยุดพักจากงานประจำ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เราต้องทำเป็นประจำ ซึ่งผลที่ตามมา คือ  เราจะได้พักผ่อนทั้งในฝ่ายร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ  เราจะพร้อมเริ่มต้นทำงานประจำของเราต่อไปด้วยความสดชื่นกระฉับกระเฉง และที่สำคัญก็คือ แม้การหยุดพักนั้นจะดูเหมือนทำให้เราเสียเวลาและเสียโอกาส แต่จริง ๆ แล้วจะทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

พระเจ้าตั้งใจให้ลูก ๆ ของพระองค์มีชีวิตที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และสันติสุข แต่บางครั้งความอุดมสมบูรณ์และสันติสุขก็ดูเหมือนอยู่ไกล เมื่อเป็นเช่นนั้นเราจึงต้องหันไปหาพระเจ้าเพื่อรับการฟื้นฟูและเมื่อเราทูลขอความช่วยเหลือ ด้วยใจนบนอบ พระองค์จะช่วยฟื้นฟูจิตใจของเรา

พระเจ้าทรงคาดหวังให้เราทำงานหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ แต่พระองค์ก็ตั้งใจให้เราได้พักด้วยเช่นกัน เมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการมันก็จะเกิดความเสียหายกับชีวิตของเราเองและต่อครอบครัวของเราด้วย

พลังงานฝ่ายจิตวิญญาณของคุณใกล้ดับลงหรือยัง? พลังงานชีวิตของคุณลดน้อยลงหรือไหม? ความรู้สึกนึกคิดของคุณกำลังหลุดลอยไปไกลอยู่หรือเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องหยุดทุกอย่างที่กำลังลดทอนพลังงานของคุณและนับจากนี้ให้ความคิดและคำอธิษฐานของคุณจดจ่อไปที่พระเจ้าเป็นอันดับแรก ทูลบอกพระองค์ทุกความรู้สึกที่คุณมีอยู่ตอนนี้ และเมื่อคุณได้ใช้เวลาเงียบ ๆ ในการอธิษฐาน พูดคุยบอกเล่าเรื่องราวของคุณต่อพระบิดา คุณจะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งรักของพระองค์ที่จะช่วยเสริมพลังให้คุณได้มีแรงก้าวต่อไป

ถ้าหากชีวิตของเรามีความหมายเพียงแค่ตามความหมายของงานที่เราทำ สิ่งที่เราทำก็จะมีประสิทธิภาพน้อยลงเรื่อย ๆ พระเยซูจึงเชื้อเชิญให้เรามาพบกับพระองค์ในที่เงียบสงบอย่างสม่ำเสมอเพื่ออธิษฐานและหยุดพัก  ในชีวิตจริง แม้เราจะพยายามพักผ่อนอย่างเหมาะสมแล้ว แต่บางครั้งเราอาจเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้เราเหนื่อยล้าและท้อถอย อาจเป็นปัญหาเกี่ยวกับการทำงาน การเรียน สุขภาพ เศรษฐกิจ หรือความสัมพันธ์ ในสถานการณ์เช่นนี้ ให้เรามาหาพระเยซูคริสต์ และพระองค์จะประทานการหยุดพักในฝ่ายวิญญาณให้กับเรา ซึ่งจะทำให้เราสามารถก้าวผ่านความทุกข์ยากลำบากไปได้ด้วยสันติสุขแท้ที่มาจากพระองค์ 

แต่อย่างไรก็ตาม การได้พักสงบในฝ่ายจิตวิญญาณนั้น ไม่ได้หมายถึงการอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร แต่เป็นการดำเนินชีวิตประจำวันด้วยท่าทีใหม่ เราจะไม่มองว่าภาระหน้าที่ที่เรากำลังทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่น่าเบื่อหน่าย แต่เราจะตระหนักว่าพระเจ้าได้มอบหมายหน้าที่นั้นให้เราทำอย่างมีวัตถุประสงค์ เราจะทำหน้าที่นั้นอย่างเต็มที่ด้วยความชื่นชมยินดีเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะเรารู้ว่า แอกที่พระเจ้ามอบให้กับเรานั้นก็พอเหมาะ และภาระที่พระเจ้ามอบให้นั้นก็เบา

ข้อคิด
โลกใบนี้จะมีการต่อสู้แข่งขันต่อไปและจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราจะสามารถดำเนินชีวิตในสังคมนี้อย่างมีสันติสุขได้เมื่อเราเรียนรู้ที่จะหยุดพักอย่างเหมาะสม และรับการหยุดพักที่แท้จริงจากพระเจ้า

ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
firstchurchcm.wordpress.com

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2563

เหตุใดความซื่อสัตย์และความไว้วางใจ จึงจำเป็นในชีวิตการแต่งงาน




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 60 เหตุใดความซื่อสัตย์และความไว้วางใจ จึงจำเป็นในชีวิตการแต่งงาน
จงให้การแต่งงานเป็นที่นับถือสำหรับคนทั้งปวงและรักษาเตียงสมรสให้บริสุทธิ์ เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาโทษคนล่วงประเวณีและคนทั้งปวงที่ผิดศีลธรรมทางเพศ
ฮีบรู 13:4

ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด  สร้างขึ้นจากความซื่อสัตย์และความไว้วางใจ ชีวิตการแต่งงานก็เช่นกัน หากปราศจากความซื่อสัตย์และความไว้วางใจในไม่ช้าก็จะเริ่มเหี่ยวแห้ง  

สำหรับคริสตชนความซื่อสัตย์เป็นข้อปฏิบัติที่ถูกต้องเพราะเป็นบทบัญญัติของพระเจ้า พระดำรัสของพระเจ้านั้นชัดเจน: "องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงชิงชังปากที่มุสาหลอกลวง  แต่ทรงชื่นชมผู้ที่ซื่อสัตย์" (สุภาษิต 12:22)

ชีวิต​คู่​จะ​มั่นคง​ถ้า​ทั้ง​สามี​และ​ภรรยา “ทน​กัน​และ​กัน และ​ให้​อภัย​กัน​อย่าง​ใจ​กว้าง​ต่อ​ไป” เนื่อง​จาก​ไม่​มี​ใคร​สมบูรณ์​แบบ ทั้ง​สามี​และ​ภรรยา​อาจ​ทำ​ผิด​พลาด เมื่อ​เรื่อง​ แบบ​นี้​เกิด​ขึ้น​พวก​เขา​จะ​ได้​เรียน​จาก​ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​ตัว​เอง เรียน​รู้​ที่​จะ​ให้​อภัย และ​มี​โอกาส​ที่​จะ​แสดง​ความ​รัก​แบบ​ที่​ใช้​หลักการ​ของ​พระคัมภีร์ ความ​รัก​แบบ​นี้​แหละ​ที่ “ผูก​พัน​ผู้​คน​ให้​เป็น​น้ำ​หนึ่ง​ใจ​เดียว​กัน​อย่าง​แท้​จริง” คู่​สมรส​สามารถ​แสดง​ความ​รัก​แบบ​นี้​โดย​การ​อด​ทน แสดง​ความ​เมตตา​ต่อ​กัน และ “ไม่​จด​จำ​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​เจ็บใจ”   เมื่อ​มี​เรื่อง​ที่​ไม่​เข้าใจ​กัน พวก​เขา​ต้อง​พยายาม​แก้​ปัญหา​ให้​เร็ว​ที่​สุด​ภาย​ใน​วัน​นั้น   การ​เป็น​คน​ถ่อม​ตัว​และ​กล้า​ที่​จะ​พูด​ว่า “ฉัน​ขอ​โทษ​ที่​ทำ​ให้​คุณ​เสียใจ” จะ​ช่วย​แก้​ปัญหา​และ​ช่วย​ให้​คู่​สมรส​ใกล้​ชิด​กัน​มาก​ขึ้น

หากคุณหวังจะได้อยู่กับคนที่คุณรักจนแก่เฒ่า ก็ควรจำไว้ว่าความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในชีวิตคู่ของคุณ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของคุณเอาไว้ให้มั่นคง เพราะหากคุณไม่ซื่อสัตย์ต่อกันแล้ว ก็คงยากที่จะเชื่อใจกันได้ และความไม่เชื่อใจนั้นเองที่จะทำให้คุณทั้งคู่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงกันใน ทุก ๆ เรื่อง จนทำให้ไม่มีความสุข  จงซื่อสัตย์ในพันธสัญญาการแต่งงานของท่านทั้งในความคิด คำพูด และการกระทำ สื่อลามก การเกี้ยวพาราสี และความคิดทางเพศที่ไม่เหมาะสมกัดกร่อนอุปนิสัยของบุคคลและบั่นทอนรากฐานของชีวิตแต่งงานที่มีความสุข ด้วยเหตุนี้ความเป็นหนึ่งเดียวและความไว้วางใจในชีวิตแต่งงานจึงถูกทำลาย คนที่ไม่ควบคุมความคิดและทำการล่วงประเวณีในใจเขา ถ้าเขาไม่กลับใจ เขาจะไม่มีพระวิญญาณ แต่จะปฏิเสธศรัทธาและจะกลัว ดังนั้นความซื่อสัตย์ภักดีทั้งในความคิด คำพูด และการกระทำ จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตการแต่งงาน


ข้อคิด
ใน​ยุคสมัย​ที่​ยุ่งยาก​นี้ เรา​เห็น​ชีวิต​คู่​ของ​หลาย​คน​ล้มเหลว ดัง​นั้น เป็น​ไป​ได้​จริง ๆ ไหม? ​ที่​เรา​จะ​มี​ชีวิต​คู่​ที่​มี​ความ​สุข​และ​ประสบ​ความ​สำเร็จ? คำตอบคือ ได้​สิ ถ้า​เรา​ใกล้​ชิด​กับ​พระเจ้า​และ​ผู้​รับใช้​ของ​พระองค์​เสมอ พยายาม​ใช้​หลักการ​ใน​พระคัมภีร์​ และ​ทำ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระวิญญาณ​บริสุทธิ์​  เมื่อ​เรา​ทำ​อย่าง​นี้ก็เท่ากับ​เรา​ให้​เกียรติ “สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ผูก​ไว้​คู่​กัน​แล้ว” ชีวิตคู่ก็จะมีความสุขและประสบความสำเร็จ  การแต่งงานเป็นของประทานที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้เรา คุณภาพของชีวิตแต่งงานเป็นของขวัญที่เราถวายแด่พระองค์

ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
churchofjesuschrist.org
wol.jw.org

ชีวิตแห่งความซื่อสัตย์




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
วันที่ 121 ชีวิตแห่งความซื่อสัตย์
7คนชอบธรรมดำเนินชีวิตอย่างไร้ที่ติ
ลูกหลานของเขาย่อมได้รับพร
สุภาษิต 20:7

คนฉลาดจะเข้าใจว่าความซื่อสัตย์นั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งในรากฐานของผู้ที่มีชีวิตดี ความซื่อสัตย์จะถูกสร้างขึ้นอย่างช้า ๆ และต้องทำต่อเนื่องไปจนตลอดชีวิต   มันถูกสร้างขึ้นและขัดเกลาโดยคุณธรรมสองประการคือความมีน้ำใจและความถ่อมตน ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่มีค่า - ยากที่จะสร้าง และง่ายต่อการถูกทำลาย

ไม่​ง่าย​เลย​ที่​จะ​ซื่อ​สัตย์​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​นี้​เมื่อ​หลาย​คน “เห็น​แก่​ตัว เห็น​แก่​เงิน” (2 ทธ. 3:2) เมื่อ​มี​วิกฤติ​เศรษฐกิจ​ หรือ​งาน​หา​ยาก หลาย​คน​คิด​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ขโมย โกง หรือ​ทำ​อะไร​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ได้ ใคร ๆ ก็​คิด​กัน​แบบ​นี้​จน​หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​เพื่อ​จะ​ได้​ผล​ประโยชน์​เขา​ต้อง​โกง แม้​แต่​คริสตชน​บาง​คน​ก็​อาจ​ตัดสิน​ใจ​ผิด ๆ และ “โลภ​หา​ผล​ประโยชน์​ให้​ตัว​เอง”  

การที่​คริสตชน​ต้อง​เลียน​แบบ​พระ​เยซู นั่นก็เพราะเรามีความ​เชื่อที่​ว่า​การ​มี​คุณลักษณะ​อย่าง​พระเจ้า​สำคัญ​กว่า​อะไร​ทั้ง​หมด​ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ผล​ประโยชน์​หรือ​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง   การ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​อาจ​ไม่​ได้​ลงเอย​ด้วย​การ​ได้​รางวัล​เสมอ​ไป  แต่​เรา​รู้​ว่า​การ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​เป็น​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สายตา​ของ​พระเจ้า และ​ยัง​ทำ​ให้​เรา​ไม่​มี​ความ​รู้สึก​ผิด​มา​กวน​ใจ นี่​แหละ​เป็น​สิ่ง​ที่​มี​ค่า​จริง ๆ

ข้อคิด
ในฐานะผู้เชื่อในพระคริสต์เราต้องพยายามดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยการมีวินัยในความซื่อสัตย์และศรัทธา เมื่อเราทำสองสิ่งนี้อย่างน้อยสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราก็คือ ความซื่อสัตย์กลายเป็นนิสัยและพระเจ้าจะอวยพรเราเพราะการเชื่อฟังพระองค์  มนุษย์​อาจ​เห็น​ว่า​เพชร​และ​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง​มี​ค่า​มาก แต่​เรา​แน่​ใจ​ได้​ว่า​พระเจ้า​ผู้​เป็นพระบิดาของ​เรา​ใน​สวรรค์​เห็น​ว่า​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​เรา​และ​คุณลักษณะ​ที่​ดี​อื่น ๆ มี​ค่า​ยิ่ง​กว่า​เพชร​พลอย

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
wol.jw.org

วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563

ปลอบโยนผู้อื่น




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
วันที่ 120 ปลอบโยนผู้อื่น
2จงช่วยรับภาระของกันและกัน ทำดังนี้แล้วท่านก็ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระคริสต์
กาลาเทีย 6:2

เราอาศัยอยู่ในโลกที่บางครั้งก็เป็นสถานที่ที่น่ากลัว ในชีวิตเราแต่ละคน อาจมีบางครั้งที่เรารู้สึกถึงความขมขื่น-ความผิดหวัง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็สุดแสนที่จะทนไหว และน่าเศร้าจนดูเหมือนว่าเราไม่สามารถฟื้นตัวได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้าและด้วยความช่วยเหลือจากการสนับสนุนของสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนๆเราจึงสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง

พระเจ้าบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า “ในโลกนี้เราจะประสบความทุกข์ยาก” ซึ่งก็คือเรื่องยุ่งยากใจและความผิดหวัง (ยอห์น 16:33) ทว่านั่นไม่ใช่ตอนจบของเรื่อง แน่นอนว่ามีความผิดหวังในชีวิต ทว่าความผิดหวังเหล่านั้นไม่ใช่ทางตัน เส้นทางชีวิตจะดำเนินไปต่อ ขณะที่เราเดินทาง เราจะผ่านความผิดหวัง บททดสอบ และเรื่องทุกข์ร้อนใจ

สิ่งหนึ่งที่ช่วยเราได้มากในการรับมือปัญหานี้คือการปลอบโยนที่เราได้รับจากครอบครัว เพื่อนๆ และพี่น้องคริสตชนด้วยกัน คำพูดที่กรุณาและเปี่ยมด้วยความรักของเพื่อนอาจเป็นเหมือนยาชโลมใจที่ทำให้เราสดชื่นขึ้น.  ในฐานะคริสตชน เราไม่ควรห่วงเพียงแค่ตัวเองเท่านั้นที่ต้องได้รับการปลอบโยน. แต่เราควรริเริ่มที่จะ “ชูใจผู้คนที่ตกอยู่ในความทุกข์ลำบากต่าง ๆ” ด้วยคำปลอบโยนที่เราเองก็ได้รับจากพระเจ้าเช่นกัน (ศึกษาเพิ่มเติมได้จากพระคัมภีร์) และการอธิษฐานเผื่อกันและกัน เราทุกคนต้องเคยประสบความทุกข์ยากบางอย่างมาไม่มากก็น้อย.   ประสบการณ์เหล่านั้นอาจช่วยเราให้พร้อมที่จะปลอบโยนคนอื่นๆ ด้วยเหตุนั้น ขอให้เราตื่นตัวเพื่อจะสังเกตเห็นความทุกข์ลำบากที่ผู้อื่นกำลังประสบ และเลียนแบบพระเจ้าด้วยการปลอบโยนเขาเหล่านั้นด้วย

ข้อคิด
หนึ่งในความรู้สึกที่แย่ที่สุดบนโลกใบนี้ คือ การที่เรารู้ว่าคนที่เรารักกำลังเจอกับปัญหาและเราทำอะไรไม่ได้ บางทีคุณอาจไม่สามารถทำให้ความเจ็บปวดหรือความหงุดหงิดใจหายไป แต่คุณก็สามารถแสดงความห่วงใยและความเห็นใจได้ อย่าได้คิดเลยว่าคุณไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะบางครั้งการแสดงความเป็นเพื่อนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ให้ผลดีมากกว่าที่คิด ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผู้คนจะหันไปพึ่งคำพูดซ้ำซากที่ไม่ช่วยอะไร ซึ่งไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกดีแถมจะทำให้สถานการณ์กลับแย่อย่างที่สุด เราควรเลี่ยงคำพูดที่ไร้ประโยชน์ การระวังคำพูดจึงสำคัญ เพราะคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้อาจจะสะเทือนใจง่ายเป็นพิเศษ สิ่งที่ต้องระวังคือการพูดสิ่งที่กระทบความรู้สึกหรือความยากลำบากที่เขากำลังเผชิญ บางครั้ง บางคนก็ “ไม่” อยากโดนกอด ไม่อยากพูดคุย หรือไม่ต้องการอยู่ใกล้ๆ ใครเลย หากเป็นเช่นนั้น ให้เพื่อนของคุณใจเย็นลงก่อนและค่อย ๆ คิดหาวิธีที่จะเข้าหาเขา ในขณะที่รอก็อธิษฐานเพื่อเขาด้วย

สิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้
การฟัง: สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ได้​มาก​ที่​สุด​คือ ร่วม​ความ​เจ็บ​ปวด​กับ​ผู้อื่น​โดย​การ​ฟัง.ฟัง​ด้วย​ความ​อด​ทน​และ​อย่าง​เห็น​อก​เห็น​ใจ

อธิษฐาน​กับ​เขา: “คำ​วิงวอน​ของ​คน​ชอบธรรม . . . มี​พลัง​มาก.” ยก​ตัว​อย่าง เมื่อ​คน​โศก​เศร้า​ได้​ยิน​เรา​อธิษฐาน​เผื่อ​เขา ความ​รู้สึก​ใน​แง่​ลบ​ของ​เขา เช่น ความ​รู้สึก​ผิด​จะ​ผ่อน​คลาย​ไป​ได้. ใน​ช่วง​ที่​คนเรา​รู้สึก​อ่อนแอ, หมด​กำลังใจ ซาตาน​จะ​พยายาม​บ่อน​ทำลาย​เรา​ด้วย “ยุทธอุบาย” หรือ “การ​กระทำ​อัน​มี​เล่ห์​เหลี่ยม” ของ​มัน. ยาม​นี้​แหละ​ที่คนเรา​ต้องการ​การ​ปลอบโยน​และ​การ​สนับสนุน​ด้วย​การ​อธิษฐาน

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
wol.jw.org

พระองค์เป็นผู้นำ




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 59 พระองค์เป็นผู้นำ
23แต่เรายังสั่งพวกเขาว่า จงเชื่อฟังเรา แล้วเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้าและเจ้าจะเป็นประชากรของเรา จงดำเนินตามวิถีทางทั้งปวงซึ่งเราสั่งเจ้า แล้วเจ้าจะอยู่เย็นเป็นสุข
เยเรมีย์ 7:23

พระเจ้าผู้ทรงล่วงรู้อนาคต ผู้ทรงรู้ว่าสิ่งไหนดีต่อเราที่สุด พระองค์ต้องการบอกเรา ต้องการนำเราให้เดินไปในทางที่ถูกต้องที่จะไม่ทำให้เราต้องเสียใจในภายหลัง ในพระคัมภีร์บอกว่าถ้าหากเราไม่รู้ว่าจะทำยังไง ถ้าหากเราขาดสติปัญญา ก็ให้เราขอต่อพระเจ้า (ยากอบ 1:5-8) พระเจ้าต้องการเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์ให้เราได้รู้ แต่ที่เราไม่รู้น้ำพระทัยของพระองค์นั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พระเจ้า แต่อยู่ที่เราเองต่างหาก อยู่ที่เราไม่รู้วิธีว่าจะให้พระเจ้าทรงนำเรายังไง

เมื่อเราเปิดใจกับพระเจ้าอย่างแท้จริงพระองค์จะตรัสกับเราผ่านทางเสียงเล็ก ๆ ภายในใจเสียงของจิตใต้สำนึกและมโนธรรมที่ดี  เมื่อพระองค์ตรัสเราเคยหยุดฟังเสียงนั้นหรือไม่?  แต่เมื่อใดก็ตามที่เราใส่ใจฟัง พระองค์จะพาเราไปตามเส้นทางที่พระองค์เลือก เส้นทางที่นำไปสู่ความอุดมสมบูรณ์สันติภาพความสุขและชีวิตนิรันดร์ แต่หากเราเลือกที่จะเพิกเฉยต่อพระเจ้าก็เท่ากับเราเลือกจะเดินไปในเส้นทางที่ไม่มีพระองค์และเราต้องทนรับต่อผลที่เกิดจากการเลือกของเราเอง

วันนี้ให้คุณจดจ่อความคิดและคำอธิษฐานของคุณไปในเส้นทางที่พระเจ้าตั้งใจให้คุณทำ เพราะเมื่อคุณทำมัน คุณจะได้ยินพระบิดาที่รักในสวรรค์ตรัสกับหัวใจของคุณ  เมื่อพระองค์ตรัสจงฟังอย่างตั้งใจและเชื่อใจพระองค์  การเชื่อเป็นเหตุให้เราได้รับพระพรในทุก ๆด้านของชีวิต เช่น พระพรในครอบครัว การทำงาน สุขภาพ ทรัพย์สินเงินทอง เกียรติยศ เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ แก่ผู้ที่เชื่อฟัง และดำเนินตามพระวจนะของพระองค์  การเชื่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิต   คริสตชน เพราะสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ในพระคัมภีร์จะเป็นจริงในชีวิตของเราหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการเชื่อฟังพระเจ้า และพระวจนะคำของพระองค์

ข้อคิด
คุณสามารถขอให้พระเจ้าช่วยให้คุณสามารถค้นหาเส้นทางที่พระองค์ต้องการให้คุณทำตาม เพื่อที่คุณจะได้มีชีวิตอยู่ได้อย่างกล้าหาญ ให้คุณทูลขอพระองค์ทรงนำทางคุณไปยังสถานที่พระองค์เลือก  ข้อควรจำ: ไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่อยากให้ลูกของตนได้รับสิ่งที่ดีงามพระเจ้าของเราก็เช่นเดียวกัน พระองค์เป็นพระบิดาของเรา พระองค์ปรารถนาให้เราเป็นลูกที่ดี เชื่อฟังในพระองค์ เพื่อผลดีจะได้เกิดขึ้นในชีวิตของเราเอง และอีกทั้งยังเป็นการแสดงออกถึงท่าทีชีวิตภายในที่เรามีต่อพระเจ้า พระบิดาของเราด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563

จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไปและ ผู้ปกครองคือครูผู้สอนที่สำคัญที่สุดของลูก ๆ




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 58 จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป
6จงอบรมเด็กในทางที่เขาควรจะไป
และเมื่อเขาโตขึ้น เขาจะไม่หันเหไปจากทางนั้น
สุภาษิต 22:6

หากคุณเป็นผู้ปกครองในโลกศตวรรษที่ 21 คุณต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มีความสุขุมและสายตาที่เฉียบคม แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด คุณยังต้องมีระเบียบวินัย  มีความอดทน และการอธิษฐาน ร่วมด้วย

ผู้ปกครองคือครูผู้สอนที่สำคัญที่สุดของลูก ๆ แน่นอนเด็ก ๆ ชอบเลียนแบบสิ่งที่ดีจากคนอื่น   แล้วเราจะทำอย่างไรให้เด็ก ๆของเราได้เลียนแบบอย่างที่ดีจากเรา เช่น การพูดจาดี ท่าทีในการปฏิบัติต่อผู้อื่น การมีน้ำใจ การไม่ตัดสินคนที่ภายนอก ความขยันทำงาน ขยันเรียนหนังสือ ความซื่อสัตย์สุจริตแม้แต่สิ่งเล็กน้อย ความยุติธรรม การไม่เอาเปรียบคนอื่น เป็นคนที่ใจกว้างไม่เห็นแก่ตัว การให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ การรักษาคำพูด และสิ่งสำคัญที่สุดคือการมีสัมพันธภาพกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ ฯลฯ

คุณและคู่สมรสเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหรือไม่? ไม่ว่าคำตอบจะเป็นแบบไหน หากคุณมีความตั้งใจจริงและอยากจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ๆ แต่ไม่รู้จะต้องเริ่มยังไง ให้คุณอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยให้คุณสามารถเป็นพ่อแม่ที่ดี และเป็นแบบอย่างที่ดี ทูลขอสติปัญญาและการทรงนำจากพระองค์ และคู่มือที่ดีที่สุดสำหรับเราทุกคนก็คือ”พระคัมภีร์ ให้เราฝึกพูดแต่ในสิ่งที่ดีกับเด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่กับเขาให้มาก  และฝึกเขาในทางของพระเจ้าตั้งแต่เขารู้ความ เช่นการพูดคุยสนทนาธรรมเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ พ่อแม่ลูกควรใช้เวลาร่วมกันในการพูดคุยเกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ประจำวัน ทำวันละนิดละหน่อยแต่ต้องเน้นความสม่ำเสมอ การอธิษฐาน เราต้องสอนให้เขารู้จักขอบพระคุณพระเจ้าทั้งตอนเช้าตื่นนอน และก่อนเข้านอน (สอนให้เขารู้ว่าเราในฐานะลูกของพระเจ้าเราต้องให้พระองค์มาเป็นที่หนึ่งของชีวิตเรา)  การขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับอาหารที่เราจะรับประทานทุกมื้อ ขอบคุณพระเจ้าในทุกสถานการณ์ของชีวิต การพาเขามาโบสถ์  การควบคุมเวลาในการใช้ชีวิตที่ยุ่งเกี่ยวกับสื่อต่าง ๆ เช่น เกมส์ อินเตอร์เน็ต หนังสือการ์ตูน ภาพยนต์ เพราะถ้าเราไม่เป็นตัวอย่างที่ดีในการรักพระเจ้า ติดสนิทและอธิษฐานพึ่งพาพระเจ้าเดี๋ยวนี้แล้ว  วันหนึ่งที่ท่านอยากให้เขารักพระเจ้า เขาอาจจะไม่ทำและย้อนถามกลับว่าทำไมพ่อแม่ไม่ทำบ้าง  รวมไปถึงทุก ๆ คนในพระศาสนจักร. ทุกคนต่างก็เป็นตัวอย่างที่เด็ก ๆ ทุกคนเฝ้าจับตาดูเป็นแบบ เพราะฉะนั้นท่านควรเป็นแบบอย่างที่ดี ในการดำเนินชีวิตคริสตชน เพราะท่านเปรียบเหมือนเป็นพ่อแม่ฝ่ายวิญญาณของเด็ก ๆ เราทุกคนในพระศาสนจักร เปรียบเสมือนครอบครัวใหญ่ที่ต้องช่วยเหลือและสนับสนุนกันและกัน

ข้อคิด
ในทุก ๆ วัน  เราควรทำหน้าที่ในการเป็นพ่อแม่ที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดี มีความรับผิดชอบทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น เป็นพ่อแม่ที่มีความรัก เป็นพ่อแม่ที่รู้จักให้อภัย เป็นพ่อแม่ที่สามารถสอนและเป็นแบบอย่างแก่ลูก ๆ ในเรื่องการอธิษฐาน-การศึกษาพระวจนะในพระคัมภีร์อย่างสม่ำเสมอ และการนมัสการพระเจ้า  หากคุณเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจให้คุณทูลขอพระเจ้าประทานสติปัญญาให้กับคุณ  และให้ทุกสิ่งที่คุณทำและพูดเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า  ตลอดทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่ เราควรทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สมาชิกในครอบครัว  พวกเราทุกคนเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราควรตระหนักถึงความสำคัญของการกลับใจใหม่ในการดำเนินชีวิตที่เป็นแบบอย่างที่ดีกับลูกหลานของพวกเราเอง ใส่ใจเข้มงวดในการฝึกเขาไปในทางที่เขาจะเดินไปกับพระเจ้าตั้งแต่เดี๋ยวนี้ และรวมถึงเด็ก ๆ ทุกคนในพระศาสนจักร เพื่อถวายเกียรติสิริแด่พระเจ้า  เพื่อลูกหลานและเด็ก ๆ ทุกคนจะเป็นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระเจ้า

ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
threemonthonchurch.org


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...