ชีวิตที่เป็นไปตามพระประสงค์ ?
พระเยซูสวดบนภูเขามะกอก พระเยซูตรัสภาวนาว่า 'อับบา พระบิดา พระองค์ทรงทำทุกสิ่งได้ โปรดนำถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด อย่าให้มันเป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์'
(มาระโก 14:36)
พระประสงค์ของพระเจ้าคือ " สันติสุขและชีวิต "
พระเจ้าทรงรักเราทุกคนและต้องการให้เราได้สัมผัสสันติสุขและชีวิต นั่นคือ
ชีวิตที่ครบบริบูรณ์และเป็นนิรันดร์ พระประสงค์พระเจ้านี้ขึ้นอยู่กับความจริงที่ว่า
เพราะพระเจ้าทรงมีอำนาจปกครองสูงสุด
พระประสงค์ของพระองค์จะไม่มีวันทำให้ผิดหวัง
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพระองค์ พระเจ้าได้ทรงเลือกที่จะเปิดเผยพระประสงค์บางส่วนของพระองค์ในพระคัมภีร์ พระประสงค์ของพระเจ้าที่รับรู้ได้เป็นพระประสงค์ที่ได้เปิดเผยไว้
จะเกี่ยวกับสิ่งที่เราควรทำหรือไม่ควรทำ การสำแดงพระประสงค์พระเจ้านี้
ได้เปิดเผยออกทั้งในพระวจนะของพระองค์ และทางสามัญสำนึกของเรา
ผ่านสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงเขียนจารีตประเพณีของพระองค์บนหัวใจของทุกคน พระบัญญัติของพระเจ้าไม่ว่าจะพบในพระคัมภีร์หรือในหัวใจของเราจะผูกพันเราไว้
เรารับผิดชอบได้เมื่อเราเชื่อฟังพระบัญญัติเหล่านั้น
การที่มนุษย์ปฏิเสธที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าและทำตามใจตัวเอง ผลลัพธ์ของการตัดสินใจนี้ไม่ใช่สิ่งที่ชื่อเสรีภาพอย่างที่พวกเขาคิด
เพราะเราจะมีเสรีภาพแท้จริงก็ต่อเมื่อเราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเหมือนที่พระเยซูทรงแสดงให้เห็นกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตเท่านั้น
ในฐานะพระบุตร
พระเยซูทรงมอบความต้องการตามประสามนุษย์ไว้กับพระประสงค์ของพระบิดา นั่นคือ
อย่าเป็นไปใจตามข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์ บนหนทางนี้
พระเยซูได้แปรเปลี่ยนบาปที่อดัมทำไว้มาเป็นการรักษามนุษยชาติ ท่าทีของอดัมต่อพระเจ้าก็คือ ไม่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
แต่ทำตามใจตนเอง ตัวเราที่ต้องการเป็นอย่างพระเจ้า
ความทะนงตนนี้คือบาปอย่างแท้จริง"
"เราคิดว่าเราเป็นอิสระแท้จริงเพียงแต่เราได้ทำตามใจตนเอง
พระเจ้าจึงกลายเป็นศัตรูกับเสรีภาพของเรา เราต้องการเป็นอิสระจากพระองค์
นี่เป็นพื้นฐานการกบฏที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์และพื้นฐานการหลอกลวงที่นำชีวิตเราไปในทางที่ผิด
เมื่อมนุษย์ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า
พวกเขาก็ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับความจริงของตัวเอง และผลที่ตามมาก็คือพวกเขาไม่ได้เป็นอิสระแท้จริง
แต่ตกเป็นทาสของตัวเอง เราจะเป็นอิสระได้
ถ้าเรายืนข้างความจริงที่เราเป็นและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า"
การมีศรัทธาในทุกสภาวการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตของเรา
เราไม่จำเป็นต้องรู้ว่าพระองค์ จะทรงรักษาเราอย่างไร หรือมีแผนการช่วยเราอย่างไร
แต่ให้รู้ว่าพระองค์ทรงสามารถรักษาและช่วยเราได้ ในวิธีและเวลาของพระองค์
เราต้องเชื่อว่าพระองค์ทรงสามารถ และเมื่อนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็สุดแล้วแต่พระองค์
ข้อคิด
“เมื่อเราพยายามแสวงหาพระประสงค์
และพยายามดำเนินชีวิตให้สอดคล้องไปกับพระองค์ การยอมให้ความคิดนี้อยู่ร่วมกันในชีวิตของเรา
มุ่งเน้นศรัทธาตามแบบพระเยซูคริสต์ และยอมทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าโดยไม่มีข้อแม้
คุณจะพบว่าคุณสบายใจและมีสันติสุขในชีวิตมากขึ้น
การได้เห็นพระหัตถ์ของพระเจ้าในชีวิตเราเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก เราจึงต้องทำความเข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้าและตระหนักอยู่เสมอว่า ตัวเราไม่มีอำนาจและความสามารถที่จะขัดขืนพระบัญชาของพระเจ้า
เราไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น ดังนั้น เราจึงไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับความบาปของเรา
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
churchofjesuschrist.org
gotquestions.org
popereport.com
popereport.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น