วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2563

คุณให้อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของคุณ




ชีวิตของทุกคนขับเคลื่อนไปโดยบางสิ่งบางอย่าง
แล้วคุณให้อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนชีวิตของคุณ
4และข้าพเจ้าได้เห็นว่าการงานทั้งหลายและความสำเร็จทั้งปวงเกิดขึ้นจากการอิจฉาเพื่อนบ้านด้วยกัน นี่ก็อนิจจัง เหมือนวิ่งไล่ตามลม
ปัญญาจารย์ 4:4

ตอนนี้คุณอาจจะขับเคลื่อนไปด้วยปัญหา ความกดดัน หรือกำหนดเส้นตาย หรือสิ่งที่ขับเคลื่อนคุณอาจเป็นความทรงจำอันเจ็บปวด ความกลัวที่คอยหลอกหลอน หรือความเชื่อที่อยู่ในจิตสำนึก มีสถานการณ์ ค่านิยม และอารมณ์ความรู้สึกนับร้อย ๆ ที่สามารถขับเคลื่อนชีวิตคุณได้ และแรงขับเคลื่อนห้าประการต่อไปนี้ คือสิ่งที่พบบ่อยที่สุด

คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตด้วยความรู้สึกผิด พวกเขาใช้ทั้งชีวิตวิ่งหนีความเสียใจ และปกปิดความอายไว้ คนที่ถูกความรู้สึกผิดผลักดันจะถูกความทรงจำควบคุม เขายินยอมให้อดีตบงการอนาคต และมักจะลงโทษตัวเองโดยไม่รู้ตัวด้วยการทำลายโอกาสความสำเร็จของตนเอง เมื่อคาอินทำบาป ความผิดนั้นได้ทำให้เขาถูกตัดขาดจากพระเจ้า พระเจ้าตรัสว่า "เจ้าจะต้องหลบหนีและพเนจรไปในโลก" (ปฐมกาล 4:12)  

เราเป็นผลผลิตของอดีต แต่เราไม่จำเป็นต้องเป็นนักโทษของมัน พระประสงค์ของพระเจ้าไม่ได้ถูกจำกัดโดยอดีตของคุณ พระองค์ทรงเปลี่ยนฆาตกรนามว่าโมเสสให้เป็นผู้นำและชายขี้ขลาดชื่อกิเดโอนให้เป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ และพระองค์สามารถทำสิ่งอัศจรรย์กับชีวิตที่เหลืออยู่ของคุณเช่นกัน พระเจ้าทรงเชี่ยวชาญในการให้โอกาสมนุษย์ได้เริ่มต้นใหม่ พระคัมภีร์กล่าวว่า "1ความสุขมีแก่ผู้ที่
การล่วงละเมิดของเขาได้รับการอภัย ผู้ที่บาปของเขาได้รับการกลบเกลื่อน 2ความสุขมีแก่ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงถือโทษบาปของเขา ผู้ซึ่งจิตวิญญาณไม่มีเล่ห์เพทุบาย" สดุดี 32:1-2  

คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตด้วยความแค้นและความโกรธ พวกเขากำความเจ็บปวดไว้และไม่ยอมลืมมัน แทนที่จะปลดปล่อยความเจ็บปวดด้วยการยกโทษ พวกเขากลับทบทวนมันในความคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางคนถูกความแค้นใจผลักดันจะ "เก็บกด" และบ่มความโกรธไว้ภายใน ขณะที่บางคนก็ "ระเบิด" มันออกมาใส่คนอื่น การตอบสนองทั้งสองแบบล้วนไม่ส่งผลดีและไม่เป็นประโยชน์ ความแค้นใจมักจะทำให้คุณเจ็บมากยิ่งกว่าคู่กรณีของคุณ บางทีคนที่ทำร้ายคุณอาจลืมความผิดไปแล้ว และใช้ชีวิตไปตามปกติ แต่คุณก็ยังคงกลัดกลุ้มอยู่กับความเจ็บปวดและฝังใจกับอดีตต่อไป ฟังนะ คนที่ทำให้คุณเจ็บปวดในอดีตจะไม่สามารถทำให้คุณเจ็บปวดในปัจจุบันได้ นอกเสียจากคุณจะกำความเจ็บปวดไว้ด้วยความแค้น อดีตก็คืออดีต ! ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนมันได้ คุณรังแต่จะทำร้ายตัวเองด้วยความข่มขื่นนั้น ดังนั้น เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของคุณเอง จงเรียนรู้จากมัน แล้วลืมมันเสีย พระคัมภีร์กล่าวว่า "ความกังวล และการกลัดกลุ้มด้วยความคับแค้น คือการกระทำที่โง่เขลาไร้สาระ" โยบ 5:2  

คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตด้วยชีวิตด้วยความกลัว ความกลัวอาจจะเป็นผลจากประสบการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว ความคาดหวังที่ไม่สมจริง การเติบโตขึ้นมาในบ้านที่เข้มงวดมาก หรือแม้แต่ความโน้มเอียงทางพันธุกรรม ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด คนที่ถูกความกลัวผลักดันมักจะพลาดโอกาสสำคัญ ๆ เพราะการกลัวความเสี่ยง เขาเลือกที่จะปลอดภัยไว้ก่อน โดยหลีกเลี่ยงการเสี่ยง และพยายามรักษาสิ่งต่าง ๆ ไว้ในสภาพเดิม ๆ ความกลัวคือคุกที่สร้างไว้ขังตัวเอง ซึ่งจะขัดขวางคุณไม่ให้เป็นอย่างที่พระเจ้าประสงค์ให้คุณเป็น คุณต้องสู้กับมันด้วยอาวุธแห่งความเชื่อและความรัก พระคัมภีร์กล่าวว่า "ความรักที่สมบูรณ์ขจัดความกลัว เนื่องจากความกลัวทำให้พิกลพิการ ดั้งนั้นชีวิตที่เต็มไปด้วยความกลัว ไม่ว่าจะกลัวตายหรือกลัวถูกลงโทษ จึงเป็นชีวิตที่ยังไม่มีความรักที่สมบูรณ์" (1 ยอห์น 4:18)

คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตด้วยวัตถุนิยม ความปราถนาที่จะมีสิ่งของได้กลายเป็นเป้าหมายทั้งหมดของชีวิต แรงผลักดันที่อยากจะมีสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น เกิดจากความเข้าใจผิดที่คิดว่าการมีมากขึ้นจะทำให้ฉันมีความสุข เป็นคนสำคัญ และมั่งคงยิ่งขึ้น แต่ความคิดทั้งสามประการนี้ล้วนไม่ถูกต้อง ทรัพย์สมบัติให้ได้เพียงความสุขชั่วคราวเพราะแม้สิ่งต่าง ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในที่สุด เราก็จะเบื่อหน่ายสิ่งเหล่านั้น แล้วก็จะอยากได้สิ่งที่ใหม่กว่า ใหญ่กว่า และดีกว่า ความเชื่อผิด ๆ ในเรื่องเงินทองซึ่งแพร่หลายที่สุดก็คือ ถ้ามีมากขึ้นฉันก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น มันไม่ใช่เช่นนั้น ความมั่งมีสามารถสูญไปในทันทีด้วยปัจจัยหลากหลายที่ควบคุบไม่ได้ ความมั่งคงแท้มีอยู่ในสิ่งที่ไม่มีวันพรากจากคุณได้ นั่นคือความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า

คนจำนวนมากขับเคลื่อนชีวิตด้วยความต้องการเป็นที่ยอมรับ พวกเขายอมให้ความคาดหวังของพ่อแม่ คู่ครอง ลูก ครูบาอาจารย์ หรือเพื่อน ๆ ควบคุมชีวิต ผู้ใหญ่หลายคนยังพยายามแสวงหาการยอมรับจากพ่อแม่ที่ไม่มีวันพึงพอใจเขา บางคนก็ถูกผลักดันโดยความกดดันจากเพื่อน ๆ และกังวลอยู่เสนอว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร น่าเสียดาย เพราะคนที่ทำตามฝูงชนมักจะสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เคล็ดลับสู่ความสำเร็จทุกอย่าง แต่เคล็ดลับสู่ความล้มเหลวประการหนึ่งคือ การพยายามทำให้ทุกคนพอใจ การถูกความคิดเห็นของคนอื่นควบคุมคือ วิธีการอันแน่นอนที่พลาดจากพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณ พระเยซูตรัสว่า "ไม่มีใครรับใช้เจ้านายสองคนในเวลาเดียวกันได้" (มัทธิว 6:24 อ่านเข้าใจง่าย)

หลังจากได้อ่านบทความหนุนใจนี้แล้ว หวังว่าคุณจะดำเนินชีวิตที่ขับเคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งนั่นก็คือชีวิตที่ได้รับการนำ ควบคุม และบอกทิศทางโดยพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าการรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ และไม่มีสิ่งใดสามารถชดเชยการไม่รู้จักพระประสงค์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง หรือความสุข ถ้าปราศจากวัตถุประสงค์ ชีวิตก็คือการเคลื่อนไหวโดยไร้ความหมาย กิจกรรมที่ปราศจากทิศทาง และเหตุการณ์ที่ไม่มีเหตุผล ถ้าปราศจากวัตถุประสงค์ ชีวิตก็เป็นเรื่องสัพเพเหระ เล็กน้อย และไร้ความหมาย

ชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์นั้นมีประโยชน์คือ การรู้วัตถุประสงค์ทำให้ชีวิตคุณมีความหมาย เราถูกสร้างมาให้มีความหมาย นี้คือเหตุผลที่มนุษย์ลองวิธีการอันคลุมเครืออย่างโหราศาสตร์หรือคนทรง เพื่อค้นหาวัตถุประสงค์เมื่อชีวิตมีความหมาย คุณจะสามารถทนได้เกือบทุกสิ่ง แต่ถ้าไม่มี คุณก็จะทนอะไรไม่ได้เลย

ข้อคิด
วันนี้คุณมีสิทธิในการเลือกใช้ชีวิต คุณยังจะเลือกดำเนินชีวิตในแบบเดิม ๆ หรือคุณจะเลือกดำเนินชีวิตที่ขับเคลื่อนไปด้วยการเรียนรู้พระประสงค์ของพระเจ้า อย่าหาข้ออ้างใดมากล่าวอ้างเพื่อบอกว่าชีวิตของคุณยุ่งวุ่นวายจนไม่มีเวลาให้กับพระเจ้า ไม่มีเวลาที่จะมาค้นหาพระประสงค์ของพระองค์ เราทุกคนมีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน หากเรารู้จักจัดสรรเวลา และให้พระเจ้ามาเป็นที่หนึ่งสำหรับทุกเรื่องของชีวิต เชื่อว่าเราทุกคนทำได้ และเมื่อคุณได้เริ่มทำ คุณจะได้พบกับพระพรนานับประการที่คุณคาดไม่ถึง อย่าลืมข้อเท็จจริงที่ว่า โลกนี้เป็นเพียงบ้านชั่วคราว บ้านที่พระเจ้าให้โอกาสแก่เราได้ใช้เตรียมตัวให้พร้อมที่จะย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านสวรรค์นิรันดร์ ผลของการกระทำในโลกนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ชีวิตหลังความตายของเรา ชีวิตในโลกเป็นเพียงการซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง คุณจะใช้เวลามากกว่าที่คุณอยู่บนโลกนี้อีกหลายเท่า เมื่ออยู่อีกฟากของความตาย คือ ในนิรันดรกาล โลกเป็นหลังเวที เป็นชั้นเตรียมประถม เป็นการทดสอบสำหรับชีวิตของคุณในนิรันดรกาล เป็นการซ้อมอุ่นเครื่องก่อนการแข่งขันจริง เป็นการวิ่งอบอุ่นร่างกายก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ชีวิตนี้ คือ การเตรียมตัวสำหรับชีวิตหน้า อย่างมากที่สุด คุณก็อยู่ในโลกนี้สักหนึ่งร้อยปี แต่คุณจะใช้เวลาตลอดไปในนิรันดรกาล

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
จากหนังสือ ชีวิตที่เคลื่อนไปด้วยวัตถุประสงค์ ริค วอเรน
thepurposedrivenlife40day.blogspot.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...