ความสำคัญของการยอมรับคำวิจารณ์
บางครั้งคำวิจารณ์ก็สามารถช่วยขัดเกลาให้เราดีขึ้นและช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ถ้าตัวเราเองเต็มใจที่จะรับฟังและพิจารณาในมุมมองของพวกเขา
อ่าน สุภาษิต
10:8-18
8จิตใจที่ฉลาดจะรับคำสั่งสอน
ส่วนคนโง่พูดพล่อยๆ
ก็ถึงแก่หายนะ
9คนที่เดินอยู่ในทางเที่ยงตรงจะเดินอย่างมั่นคง
ส่วนคนที่เดินอยู่ในทางคดจะถูกเปิดโปง
10ผู้ที่ขยิบตาอย่างมีเลศนัยสร้างความเดือดร้อน
และคนโง่พูดพล่อยๆ
ก็ถึงแก่หายนะ
11ปากของคนชอบธรรมเป็นบ่อน้ำพุซึ่งให้ชีวิต
แต่ปากของคนชั่วซุกซ่อนความโหดร้ายทารุณ
12ความเกลียดชังยั่วยุให้เกิดความแตกแยก
แต่ความรักบดบังความผิดทั้งมวล
13สติปัญญาพบได้จากริมฝีปากของผู้มีวิจารณญาณ
ส่วนไม้เรียวมีไว้หวดหลังคนไร้สามัญสำนึก
14คนฉลาดสั่งสมความรู้
แต่ปากของคนโง่นำไปสู่ความย่อยยับ
ไม่มีใครชอบคำวิจารณ์
แต่เราควรจำไว้ว่าพระเจ้าสามารถใช้มันเพื่อบอกเราในสิ่งที่สำคัญ เราฉลาดที่จะให้ความสนใจเมื่อมีคนวิจารณ์เรา
คำพูดของพวกเขาไม่ว่าจะได้รับเชิญหรือไม่ก็ตามควรกระตุ้นให้เราสำรวจตัวเองและค้นพบว่าเราเป็นใคร
หากเราไม่รับฟังมันเลย
เราอาจพลาดสิ่งสำคัญไป
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการตอบสนองที่ดีและการประเมินคำวิจารณ์อย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ
แทนที่เราจะตั้งแง่ทันทีหรือคิดว่าคุณไม่มีความผิด
ให้ถามตัวเองก่อนว่า พระเจ้ากำลังพยายามสอนบางอย่างกับฉันในเวลานี้หรือไม่? เราไม่ควรปฏิเสธความคิดเห็นคนอื่นโดยอัตโนมัติ หรือตำหนิผู้ที่แสดงความคิดเห็นทันที
หรือปกป้องตัวเองด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ แต่ให้เราพิจารณาสิ่งที่เราจะพูดและขอให้พระเจ้าเปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์ต่อชีวิตของคุณต่อไป
จากนั้นขอบคุณบุคคลเหล่านั้นและอธิบายว่าคุณจะพิจารณาจากข้อสังเกตของเขาหรือเธออย่างจริงใจ
พระคำวันนี้เตือนเราว่า “จิตใจที่ฉลาดจะรับคำสั่งสอนส่วนคนโง่พูดพล่อยๆ
ก็ถึงแก่หายนะ ” และ “ผู้ที่รับฟังคำสั่งสอนก็สำแดงทางสู่ชีวิตส่วนผู้ที่ไม่แยแสคำตักเตือนก็พาคนอื่นหลงผิด”
(ข้อ 8, 17) หากเราต้องการเติบโตต่อไปในแบบพระคริสต์ เราต้องเปิดใจรับคำสอนของพระเจ้าผ่านสิ่งใดก็ตามหรือใครก็ตามที่พระองค์ทรงเลือก
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น