วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ผลที่ตามมาของความโกรธ

 


ผลที่ตามมาของความโกรธ

การยึดมั่นในความโกรธไม่ได้ทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าบรรลุผล แต่มันกลับทำลายเราและเป็นพิษต่อผู้อื่น

อ่าน สุภาษิต 19:19

 

คุณโกรธครั้งสุดท้ายเมื่อใด? และคุณตอบสนองมันอย่างไร? เราทุกคนรู้สึกปั่นป่วนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แม้แต่พระเจ้าเองก็รู้สึกโกรธ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราเป็นมนุษย์ เราจึงไม่ได้ตอบสนองด้วยวิธีที่ดีที่สุดเสมอไป เอเฟซัส 4:26 บอกเราว่า “ในยามโกรธ ท่านอย่าทำบาป” อย่าให้ถึงดวงอาทิตย์ตกแล้วท่านยังโกรธอยู่ 27และอย่าให้โอกาสแก่มาร”

 

วิธีหนึ่งที่เรามักทำบาปคือการเก็บความโกรธเอาไว้ เมื่อความขุ่นเคืองครอบงำจิตใจของเรา มันจะบิดเบือนความคิดและอารมณ์ของเรา และปล้นสันติสุขไปจากเรา แล้วความขมขื่นนั้นจะทะลักเข้าสู่ความสัมพันธ์ของเรา เราอาจพูดถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจ แม้แต่กับคนที่ไม่ใช่ต้นเหตุของความโกรธเลยก็ตาม หรือเราอาจป้องกันตนเองด้วยการถอยห่างจากผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดในที่อาจจะเกิดในอนาคต

 

แม้ว่าการยึดติดกับความโกรธจะทำลายความผาสุกส่วนบุคคลและการเชื่อมโยงกับผู้อื่น แต่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นคืออุปสรรคในการสามัคคีธรรมกับพระเจ้า ทัศนคติเชิงลบทำให้ใจเราแข็งกระด้างและส่งผลต่องานของพระเจ้าในและผ่านทางเรา มันยังทำให้พระองค์ทรงเสียพระทัยด้วย พระบิดาต้องการมอบความสุขและสันติสุขให้กับเรา แต่ใจที่โกรธแค้นมักจะขัดขวางพรดังกล่าว

 

คุณเก็บงำความโกรธไว้อยู่หรือเปล่า? ความขมขื่นที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของคุณจนคุณเองอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันอยู่ที่นั่น การรู้สึกโกรธเป็นครั้งคราวเป็นเรื่องปกติ แต่การยึดติดกับความคิดด้านลบเป็นอันตราย ทูลขอให้พระเจ้าเปิดเผยความขุ่นเคืองที่ซ่อนอยู่ แล้วปลดปล่อยมันต่อพระองค์และยึดเอาความมั่งคั่งของพระคริสต์แทน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

intouch.org

 

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...