ความเชื่อที่จะวางใจพระคำของพระเจ้า
ไม่ว่าตาของเราจะมองเห็นอะไรอยู่ก็ตาม
เราสามารถวางใจพระเยซูได้อย่างสุดใจ พระองค์ทรงรักษาสัญญาของพระองค์เสมอ
อ่าน มัทธิว 8:5-10; มัทธิว 8:13
หลังจากคำเทศนาบนภูเขา
พระเยซูเสด็จกลับไปยังเมืองคาเปอรนาอุม ที่นั่น
นายร้อยชาวโรมันคนหนึ่งเข้ามาทูลวิงวอนแทนผู้รับใช้คนหนึ่งซึ่ง “ป่วยทรมานอย่างสาหัส” และพระเยซูตรัสแก่นายร้อยนั้นว่า “เราจะไปรักษาเขา”
นี่เป็นท่าทีที่น่าประหลาดใจ
เนื่องจากชาวยิวถือว่าบ้านของชาวโรมันนั้นอยู่นอกขอบเขต อันที่จริง
บางคนถึงกับขมวดคิ้วกับสิ่งที่พระเยซูทรงทำ แม้กระทั่งการพูดคุยกับทหารโรมันด้วยซ้ำ
แต่การตอบสนองของนายร้อยก็น่าเหลือเชื่อเช่นกัน
เขาบอกว่าเขาไม่คู่ควรกับการอยู่ร่วมกับพระเยซู แต่เขารู้ว่าเพียงการตรัสของพระเมสสิยาห์ก็เพียงพอแล้ว
นี่คือแก่นแท้ของศรัทธา—การวางใจสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญา ในบางสถานการณ์
เราต้องเชื่อสิ่งที่พระองค์ตรัสแม้ว่าตาของเราจะมองเห็นสิ่งที่ดูตรงกันข้ามก็ตาม เราต้องเชื่อใจในขณะที่ยังรอ
แล้วเราจะมีศรัทธาแบบนี้ได้ไหม—แบบที่ทำให้พระเยซูทรงปีติยินดีและ “ประหลาดใจ” (มัทธิว 8:10)? นั่นคือสิ่งที่พระองค์ทรงต้องการสำหรับผู้ติดตามของพระองค์ทุกคน
และจำคำตอบนี้ที่พระองค์ได้ตรัสให้กำลังใจกับนายร้อยไว้ว่า “จงไปเถิด
จะเป็นไปตามที่ท่านเชื่อ” (ข้อ 13)
เชื่อว่าเราหลายคนมักต้องการข้อพิสูจน์ ขอสัญญาณบางอย่างเพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าพระเจ้าจะทรงทำตามที่เราขอ แต่พระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักที่เรารับใช้อยู่นั้นทรงซื่อสัตย์ต่อพระวจนะของพระองค์
ความเชื่อจะทำให้เราเอาใจใส่จดจ่อที่พระเยซู และวางใจว่าพระองค์จะทำตามพระสัญญาของพระองค์ ไม่ว่าสถานการณ์ที่เรามองเห็นอยู่จะเป็นอย่างไรก็ตาม
เราสนับสนุน
และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่
kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น