อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 64 ให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในชีวิตเรา
17เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์
การทรงสร้างใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งเก่าได้ล่วงไป สิ่งใหม่ได้เข้ามา!
2โครินทร์ 5:17
เมื่อเราหันใจของเราเข้าหาพระเยซูเพื่อเราจะได้รับพรแห่งสันติสุขและพระคุณของพระองค์
พระเยซูทรงบรรลุความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์กับพระบิดาโดยทรงยอมให้ร่างกายและวิญญาณเป็นไปตามพระประสงค์ของพระบิดา
การมุ่งความคิดไปที่พระบิดาเป็นเหตุผลหลักประการหนึ่งที่ทำให้การปฏิบัติศาสนกิจของพระเยซูชัดเจนและมีพลังเช่นนั้น
ไม่มีความเรรวนหลงแนวทางในพระองค์
ในทำนองเดียวกัน เราสามารถให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในชีวิตเรา และให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระองค์
ได้ดังที่พระองค์ทรงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพระบิดา (ดู ยอห์น 17:20–23) เราเริ่มได้โดยการปลดเปลื้องทุกอย่างออกจากชีวิตเราแล้วนำสิ่งเหล่านั้นกลับมาเรียงลำดับความสำคัญโดยให้พระผู้ช่วยให้รอดเป็นศูนย์กลาง
เราจะจัดลำดับสิ่งที่ทำให้สามารถระลึกถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา
ไว้เป็นอันดับแรก
อาทิ สวดอ้อนวอนอธิษฐานบ่อย ๆ ศึกษาและไตร่ตรองพระคัมภีร์ ศึกษาใคร่ครวญคำสอน ถึงเราทุกคนจะต้องเผชิญกับการทดลองและมีคำถามมากมายเกิดขึ้น
แต่ให้จำไว้ว่า "พระวจนะของพระคริสต์จะบอกถึงทุกสิ่งที่เราควรทำ”
เราต้องทำให้การศึกษาพระคัมภีร์เป็นประจำทำให้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา
เพราะสิ่งนี้จะช่วยเปิดประตูแห่งการเปิดเผย
พระคริสต์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดที่ดีที่สุดของมนุษยชาติ
ในฐานะผู้รับใช้ เราเราควรวางพระองค์ไว้ที่จุดศูนย์กลางของชีวิตของเราและให้พระองค์เป็นศูนย์กลางของชีวิตการแต่งงานของเราด้วย
และตราบใดที่พระเจ้ายังมอบลมหายใจให้ เราควรรู้จักแบ่งปันความรักของพระคริสต์และข่าวประเสริฐของพระองค์กับโลกนี้ได้รับรู้
ข้อคิด
ลักษณะนิสัยส่วนตัวทางวิญญาณ เช่นการเชื่อฟัง การศึกษาพระคัมภีร์ สวดอ้อนวอนอธิษฐาน
จะช่วยทำให้เราเข้มแข็ง การขาดลักษณะนิสัยส่วนตัวทางวิญญาณเหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะทำให้เราตกอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกล่อลวง
ถึงแม้การทำแบบนี้ไม่ง่ายนัก แต่เราสามารถ ฝึกปฏิบัติมุ่งหน้าทำด้วยศรัทธาในพระเจ้า
และหากเรามีมานะที่จะระลึกถึงพระผู้ช่วยให้รอดตลอดเวลาและมุ่งหน้าทำตามพระองค์
ความมุมานะนี้จะนำเราไปสู่จุดหมายปลายทาง
อย่าลืมที่จะสวดอ้อนวอนสม่ำเสมอ
เพื่อขอการเล็งเห็นและความช่วยเหลือจากเบื้องบนในเรื่องที่เราจำเป็นต้องได้รับ
ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
churchofjesuschrist.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น