อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 71 เวลาสงบเงียบกับพระเจ้า
จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์
อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา
เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี
สดุดี 37: 7
โลกของเราดูเหมือนจะเติบโตและวุ่นวายมากขึ้นทุกวัน และความรู้สึกของเราก็ดูเหมือนจะถูกล่อลวงได้ง่ายมากขึ้นเช่นกัน
ถ้าเรายอมให้ความวุ่นวายทางสังคม และโลกมาทำให้เราหลุดพ้นจากสันติสุขของพระเจ้าก็เท่ากับว่าเราเลือกที่จะทำลายชีวิตตัวเอง
หน้าที่ของเราในฐานะผู้เชื่อที่ซื่อสัตย์คือเราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้กับพระเจ้า
หาเวลาเงียบสงบ เพื่อสร้างสัมพันธ์กับพระองค์ให้มากขึ้น ให้เรานำพาตัวเองออกห่างจากโลกที่วุ่นวายบ้าง
หากเราต้องการรักษาจิตใจที่ชอบธรรมและจิตใจที่เมตตาให้คงอยู่
เราต้องใช้เวลาในแต่ละวันเพื่ออธิษฐานและทำสมาธิ
เราต้องพาตัวเองไปอยู่ต่อหน้าผู้สร้างของเรา เราต้องหามุมสงบเงียบเพื่อให้จิตใจได้สัมผัสน้ำพระทัยของพระเจ้าและความรักของพระองค์
ชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายได้ปล้นคุณไปจากสันติสุขที่พระเจ้าสัญญาไว้หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถึงเวลาที่จะจัดลำดับความสำคัญและชีวิตของคุณใหม่ เพราะไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเวลาที่คุณจะได้อยู่กับพระบิดาในสวรรค์ของคุณ
ดังนั้นจงหาเวลาสงบนิ่งเพื่อรับเอาสันติสุขที่จะพบได้ในช่วงเวลาที่คุณอยู่กับพระเจ้า การแยกตัวออกมาอยู่เงียบๆ (มธ. 14:23) พระเยซูเป็นแบบอย่างของการเข้าเงียบให้กับเราที่ดีมาก
หลายครั้งชีวิตคริสตชนอย่างเรา “วุ่นวาย” มากเกินไป เราจึงควรออกจากเรื่องวุ่นๆ แล้วหาเวลาเงียบสงบกับพระเจ้าบ้าง
การได้ยินเสียงพระองค์ตรัสกับเราไม่ใช่การรอปรากฎการณ์ที่เหนือธรรมชาติแต่เป็นการจัดสรรเวลาของเราให้กับการอ่านพระคัมภีร์เราจะได้ความรู้ที่เสริมปัญญาให้กับเราในการดำเนินชีวิตอย่างมากมาย หลังจากนั้นให้เราสงบเงียบเพื่อที่เราจะได้ยินเสียงของพระองค์
ความเงียบทำให้ความคิดของเรามุ่งตรงไปที่พระวาจาของพระองค์ ให้พระวาจานั้นดังก้องและกำลังเข้าสนิทอยู่ในตัวเรา…และเราก็ยังต้องดำเนินอยู่ในความเงียบสงบต่อไป
ซึ่งไม่ใช่เป็นการเพิกเฉยต่อพระวาจา หากเป็นการให้เกียรติและน้อมรับพระคำของพระองค์” ดังนั้นความเงียบที่ดีที่สุดไม่ใช่ความเงียบงัน
แต่เป็นความเงียบสงบเพื่อเตรียมใจเราให้พร้อมน้อมรับพระวาจาของพระเจ้าและรู้สึกยินดีปรีดาอย่างที่สุดกับพระองค์ผู้ซึ่งกำลังตรัสกับเรา
ข้อคิด
ให้เราหาเวลาเงียบ ๆ ในแต่ละวัน เพื่อใคร่ครวญและพูดคุยกับพระบิดาของเรา
ให้เราจดจ่อความคิดและคำอธิษฐานของเราไปที่พระองค์ ในความเงียบสงบเราจะสัมผัสได้ถึงการประทับอยู่ของพระองค์และหน้าที่ของเราคือการแสวงหาพระประสงค์ที่พระองค์มีไว้สำหรับชีวิตของเรา และเมื่อเรายอมรับสันติสุขของพระองค์ เราก็จะได้รับพระพรทั้งในวันนี้และตลอดชั่วนิรันดร์
อันที่จริง การอธิษฐาน ใคร่ครวญ ภาวนาพระวาจา นั่งนิ่งๆ พวกนี้ก็จัดว่าเป็น “ทำสมาธิ (Meditation)” รูปแบบหนึ่ง การทำสมาธิ เป็นกิจกรรมดั้งเดิมที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ และมีการนั่งสมาธิประเภท ที่เราจะ “ไม่ทำ” เช่น นั่งเพื่อการหลุดพ้น หรือนั่งเพื่อพลังวิเศษ แต่ก็มีการนั่งสมาธิหลายประเภท ที่เราลองฝึกทำได้ เช่น 1.ใคร่ครวญ 2.แยกตัวออกมาอยู่เงียบๆ 3.ภาวนา/อธิษฐาน
ขอขอบคุณบทความหนุนใจจาก
เรียนพระคัมภีร์ออนไลน์กับ พี่ซัน
christlike.co
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น