อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน
วันที่ 146 ความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า
3“อย่ามีพระเจ้าอื่นใดต่อหน้าเรา
4“อย่าสร้างแบบจำลองให้กับตนเอง
เป็นรูปสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีอยู่ในฟ้าสวรรค์เบื้องบน แผ่นดินโลกเบื้องล่าง
หรือท้องน้ำเบื้องลึก 5อย่ากราบไหว้หรือนมัสการสิ่งเหล่านั้น
เพราะเรา พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า เป็นพระเจ้าผู้หึงหวง เราจะลงโทษลูกหลานของผู้ที่เกลียดชังเราไปสามสี่ชั่วอายุเพราะบาปของเขา
6แต่เราจะรักลูกหลานของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามคำสั่งของเราตลอดพันชั่วอายุคน
อพยพ 20: 3-6
หลังจากพระเยซูรับบัพติศมา
พลังของพระเจ้าก็พาท่านไปในที่กันดาร พระเยซูไม่ได้กินอะไรเลย 40
วันและหิวมาก ซาตานจึงมาล่อใจท่าน
การทดลองเรื่องแรกเกี่ยวกับตัณหาของเนื้อหนัง
ซึ่งรวมถึงความต้องการทางฝ่ายกายทุกอย่าง พระเจ้าของเราทรงหิวพระกระยาหาร และซาตานจึงมาล่อใจท่าน
มันพูดว่า ‘ถ้าคุณเป็นลูกของพระเจ้าจริง ๆ
ก็เสกหินพวกนี้ให้กลายเป็นขนมปังสิ’ แต่พระเยซูตอบซาตานโดยอ้างพระคัมภีร์ว่า
‘พระคัมภีร์บอกไว้ว่ามนุษย์จะมีชีวิตอยู่ได้
ไม่ใช่ด้วยอาหารเท่านั้น แต่ด้วยคำพูดทุกคำที่มาจากพระเจ้า’
การทดลองแบบที่สองเกี่ยวกับความหยิ่งยโสในชีวิต ซาตานก็ท้าทายพระเยซูว่า
‘ถ้าคุณเป็นลูกของพระเจ้าจริง ๆ ก็กระโดดจากจุดสูงสุดของวิหารลงไปเลย
เพราะพระคัมภีร์บอกไว้ว่าพระเจ้าจะส่งทูตสวรรค์ของพระองค์มารับคุณไว้’
แต่พระเยซูก็ตอบซาตานโดยอ้างพระคัมภีร์อีกครั้งว่า
‘พระคัมภีร์บอกไว้ว่าอย่าลองดีกับพระเจ้า’
การทดลองแบบที่สามเกี่ยวกับตัณหาของตา แล้วซาตานก็ทำให้พระเยซูเห็นความร่ำรวยและความยิ่งใหญ่ของทุกประเทศในโลก
และบอกพระเยซูว่า ‘เราจะยกประเทศและความยิ่งใหญ่ทั้งหมดนี้ให้ท่าน
ถ้าท่านก้มกราบเราแค่ครั้งเดียว’ แต่พระเยซูตอบว่า ‘ไปให้พ้น เจ้าซาตาน!
พระคัมภีร์บอกไว้ว่าเราต้องนมัสการพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น’
เราได้บทเรียนอะไรจากการล่อใจและวิธีที่พระเยซูต้านทานการล่อใจคือ? อย่างแรกคือ
เรื่องเล่าทั้งหมดเกิดขึ้นจริง
ซึ่งหมายความว่าซาตานเป็นทูตสวรรค์ชั่วที่มีอยู่จริง นอกจากนั้น เรายังเห็นว่ามารซาตานพร้อมจะทุ่มหมดหน้าตัก
ถ้าพระเยซูนมัสการมันแค่ครั้งเดียว มันก็จะยกประเทศทั้งหมดในโลก
ให้กับท่าน ซาตานอาจล่อใจเราด้วยวิธีคล้าย ๆ กัน
มันอาจเสนอโอกาสที่จะร่ำรวย มีอำนาจ หรือมีตำแหน่งที่คนนับหน้าถือตา
แต่ไม่ว่าจะถูกล่อใจอย่างไร
เราควรทำตามตัวอย่างของพระเยซูโดยรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า
เพราะนั่นเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด!
อย่าลืมว่าซาตานไปจากพระเยซูเพียงเพื่อรอ “จนกว่าจะมีโอกาสอีก”
(ลูกา 4:13) มันจะทำแบบนั้นกับเราเหมือนกัน
เราจึงต้องระวังตัวอยู่เสมอและไม่เปิดโอกาสให้ซาตาน
ข้อคิด
ถ้าเราวางพระเจ้าไว้ในตำแหน่งที่มีความสำคัญรองลงไป เรากำลังทำให้ตัวเราเองตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง
เมื่อเราอนุญาตให้มีการล่อลวงหรือให้บางสิ่งมารบกวนระหว่างเรากับผู้สร้างของเรา
เราก็ก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับสิ่งที่เราเลือก แต่หากเราเลียนแบบพระเยซูและวางพระเจ้าในที่ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตของเรา
เราจะสามารถรับรู้และต่อสู้กับการทดลองได้ทุกรูปแบบ
โดยให้จิตใจและความคิดของเรามีความจริงสำรองไว้มาก ยุทธภัณฑ์ของทหารในการต่อสู้ฝ่ายจิตวิญญาณ
มีอาวุธป้องกันอย่างหนึ่ง คือพระแสงของพระวิญญาณนั่นก็คือพระวจนะของพระเจ้า
การรู้พระคัมภีร์อย่างลึกซึ้งเท่ากับในมือของเราถือดาบอยู่
และสามารถช่วยให้เราชัยชนะเหนือการทดลองต่าง ๆ
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
gotquestions.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น