บทเรียนแห่งช่วงเวลาที่ยากลำบาก

อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 

วันที่ 144 - บทเรียนแห่งช่วงเวลาที่ยากลำบาก

1ข้าพเจ้าอดทนรอคอยองค์พระผู้เป็นเจ้า

พระองค์ทรงหันมาและรับฟังคำทูลวิงวอนของข้าพเจ้า

2พระองค์ทรงยกข้าพเจ้าออกจากหลุมแห่งความสิ้นหวัง

จากหุบเหวและแอ่งโคลน

พระองค์ทรงวางเท้าข้าพเจ้าบนศิลา

และประทานที่อันมั่นคงให้ยืน

3พระองค์ทรงใส่เพลงบทใหม่ในปากข้าพเจ้า

เป็นเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้าของเรา

คนทั้งหลายจะเห็นและยำเกรง

และไว้วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า

สดุดี 40: 1-3

คุณเคยประสบกับความล้มเหลวในชีวิตที่ผ่านมาบ้างหรือเปล่า? ให้คุณลองมองหาบทเรียนที่พระเจ้าพยายามสอนคุณ แทนที่คุณจะบ่นเกี่ยวกับเรื่องเศร้าของชีวิตแต่ให้เปลี่ยนเป็นเรียนรู้สิ่งที่ต้องเรียนรู้ - เรียนรู้สิ่งที่ต้องเปลี่ยนและเดินหน้าต่อไป ใช้ความล้มเหลวให้เป็นโอกาสที่จะประเมินพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตของคุณ ว่ามันคืออะไร? ใช้ความผิดหวังของชีวิตที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นโอกาสในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณเองและโลกของคุณ

ชีวิต—ทุกชีวิต—มีครบทั้งขึ้นและลง แท้จริงแล้วเราเห็นทั้งเรื่องที่น่ายินดีและเศร้ามากมายในโลก แผนมากมายที่เปลี่ยนไปและทิศทางใหม่ที่เกิดขึ้น พรมากมายที่มักจะดูไม่เหมือนหรือรู้สึกไม่เหมือนว่าเป็นพร และพรไม่น้อยที่ทำให้เราอ่อนน้อมถ่อมตนอีกทั้งปรับปรุงความอดทนและศรัทธาของเรา ในโลกใบนี้เราทุกคนเคยมีประสบการณ์เหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่า  “ด้วยความที่เป็นมนุษย์ เราจึงอยากขับความเจ็บปวดทางกายและความปวดร้าวทางใจออกไปจากชีวิตเรา และอยากให้ตัวเราไร้กังวลและสบายใจอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราปิดประตูไม่ยอมรับความเศร้าโศก เราอาจจะกีดกันเพื่อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดและผู้มีพระคุณของเราออก การปิดประตูไม่ยอมรับประสบการณ์บางอย่างในชีวิต การปิดเหล่านั้นบางครั้งทำให้เกิดความเจ็บปวดและความปวดร้าวใจอย่างแท้จริง ดังนั้นหากคุณกำลังต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยุ่งยาก บีบคั้นหัวใจ ขอให้คุณเชื่อมั่นว่าเมื่อประตูบานหนึ่งปิด ย่อมจะมีอีกบานหนึ่งเปิด (และอาจจะเปิดมากกว่าหนึ่งบาน) พร้อมด้วยความหวังและพรในด้านอื่นของชีวิตเสมอ

บางครั้งชีวิตอาจพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก และเชื่อว่าเราทุกคนต่างก็เคยทำสิ่งผิดพลาด  สิ่งสำคัญที่เราต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราจะต้องไม่ทำผิดเป็นครั้งที่สอง  ความยุ่งยากของชีวิตทำให้เราเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยขัดเกลาเรา สอนเรา และเป็นพรแก่เรา นั่นจะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในพระหัตถ์ของพระเจ้าเพื่อทำให้เราเป็นคนดีขึ้น ทำให้เราสำนึกคุณมากขึ้น รู้จักรักมากขึ้น เห็นอกเห็นใจผู้อื่นมากขึ้น คิดถึงคนอื่นมากขึ้น

ข้อคิด

เราทุกคนต้องเคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งโดยส่วนตัวและส่วนรวม  แม้ในเวลาสาหัสที่สุด ทั้งในอดีตหรือปัจจุบัน ปัญหาเหล่านั้นไม่มีเจตนาอื่นใดนอกจากเป็นพรแก่คนชอบธรรมของพระเจ้าและเพื่อช่วยคนให้หันมาสู่การกลับใจ และที่สำคัญที่สุดพระผู้เป็นเจ้าทรงรักเรา    และพระคัมภีร์บอกเราว่าพระองค์ “ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์” [ยอห์น 3:16]

เรามีเหตุผลทุกอย่างที่จะมองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นแม้แต่ในยามยากลำบากของชีวิต  และไม่มีใครหลีกเลี่ยงมันได้ด้วย แต่การรู้เท่าทันมัน และดำเนินชีวิตอย่างที่เราพึงดำเนินในทางของพระเจ้า ย่อมไม่มีช่องว่างและข้อแก้ตัวให้การมองโลกในแง่ร้ายและความสิ้นหวังอีก จงมีความหวังอยู่เสมอว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และจะเป็นเช่นนั้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราดำเนินชีวิตตามแบบของพระเยซูคริสต์และเปิดโอกาสให้พระวจนะเบ่งบานในชีวิตเรา

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก

churchofjesuschrist.org