วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2563

พลังแห่งการให้กำลังใจ




อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 69 พลังแห่งการให้กำลังใจ
กายใจของข้าพระองค์อาจจะเสื่อมถอย

แต่พระเจ้าทรงเป็นพลังใจและเป็นส่วนมรดกของข้าพระองค์ตลอดไป
 สดุดี 73:26


การแต่งงานเปรียบเสมือนกีฬาที่ต้องเล่นเป็นทีมและเราทุกคนต้องการกำลังใจจากเพื่อนร่วมทีมของเราเป็นครั้งคราว ในหนังสือสุภาษิตเรากล่าวว่า "คำพูดที่เหมาะกับกาลเทศะก็เหมือนแอปเปิ้ลทองคำล้อมเงิน" (25:11) คำสอนข้อนี้เตือนเราให้รู้ว่าทุกคำที่เราพูดควรเป็นสิ่งที่สวยงามที่เราจะมอบให้กับคนที่เรารัก   

คำพูดของเราทุกคนมีพลังมากพอที่จะยกระดับชีวิตของคนที่เรารักได้ บางครั้งเมื่อเรารู้สึกว่าตัวเองสบายใจและมีความสุขทั้งกาย ทั้งใจ เราก็พบว่ามันเป็นเรื่องง่ายที่จะเอ่ยคำพูดดี ๆ เพื่อให้กำลังใจและเสริมใจผู้อื่นได้  มันเป็นเรื่องง่ายที่เราสามารถคิดหาคำพูดที่แสดงออกถึงความห่วงหา อาทรต่อคนรักของเรา   แต่ตรงกันข้ามเมื่อใดก็ตามที่ใจของเรารู้สึกท้อแท้  เหนื่อยหน่าย หดหู่ สิ้นหวังเพราะมีปัญหามากมายกดดันให้เราต้องคิด-วิตกกังวล มันจึงเป็นเรื่องยากในช่วงเวลานี้ที่เราจะไตร่ตรองคำพูดของตนเองก่อนพูดออกไป มันไม่ง่ายที่จะให้เราไปกล่าวคำหนุนใจกับใคร เพราะหัวใจของเรากำลังเหี่ยวแห้ง หดหู่ แต่อย่าลืมว่าในฐานะคริสตชน การให้กำลังใจ หนุนใจคู่สมรสถือเป็นภาระผูกพันของเราอย่างชัดเจน: เราต้องพิจารณาคำพูดของเราอย่างรอบคอบ  ว่าสิ่งที่เราพูดออกไปนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนที่เรารัก(และคนอื่นๆ)อย่างจริงใจ และเพื่อถวายเกียรติพระบิดาในสวรรค์ของเรา เท่านั้นจริง ๆ

พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราพูดแต่ถ้อยคำแห่งความเมตตา-ก่อให้เกิดปัญญาและมีความจริง ไม่สถานการณ์ของเราจะเป็นเช่นไร อารมณ์ของเราจะเป็นเช่นไรก็ตาม ต้องให้เรามั่นใจได้ว่าคำพูดที่จะออกจากปากของเรานั้นมีประโยชน์ต่อผู้ฟัง  ปราศจากการทำลาย เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราทำเราแบ่งปันของกำนัลอันล้ำค่านี้กับคนที่เรารักและคนที่เราพบเห็น ก็เท่ากับเราได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าผู้ที่มอบชีวิตให้กับเรา และในฐานะผู้เชื่อเราต้องทำไม่น้อยกว่าคนอื่น

ข้อคิด
" กำลังใจ ” แม้จะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทุกคนก็สัมผัสได้ถึงพลังอันสำคัญนี้  การเสริมเสริมความรักให้เติบโต เมื่อคู่สมรสต้องการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ทั้งสองต่างก็ต้องการความรัก ความเข้าใจ การดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน รวมถึงกำลังใจที่ต่างฝ่ายต่างมีให้กันก็เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นการแสดงออกว่ารัก และเห็นคุณค่าของกันและกันอย่างสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่จะช่วยในการหล่อเลี้ยงจิตใจของทั้งสองฝ่าย
  
 ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า  เราทุกคนต่างรู้ว่าพระองค์ทรงรักเราชั่วนิรันดร์และจะดูแลเราอย่างซื่อสัตย์ พระองค์จะคอยช่วยเหลือเราตลอดไป พระองค์ได้มอบของขวัญอันล้ำแก่เราทุกคนนั่นคือพระเยซูพระบุตรของพระองค์มาบังเกิดเป็นมนาย์และตายเพื่อไถ่บาปให้ชาวเรา ดังนั้นเมื่อเราได้รับพระเมตตามากมายจากพระองค์ เราก็ต้องตอบแทนความรักนี้ด้วยการแบ่งปันความรัก ความเมตตา ความเอื้ออาทร  ฝึกนิสัยการยกชูใจผู้อื่นทั้งในฝ่ายวิญญาณและฝึกหนุนใจกันด้วยมุมมองที่ดีต่อชีวิต ด้วยท่าทีที่ดีต่อกัน ที่สำคัญเราต้องมีความหวังอยู่เสมอ  เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระองค์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...