อ่านพระคัมภีร์
365 วัน
วันที่ 127 พลังแห่งคำพูด
14คนฉลาดสั่งสมความรู้
แต่ปากของคนโง่นำไปสู่ความย่อยยับ
สุภาษิต 10:14
บ่อยครั้งที่เราพูดก่อนและค่อยคิดและมีผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงประสงค์สักเท่าไหร่
คำพูดของพระเจ้าเตือนเราว่า "คำพูดพล่อยๆ ทิ่มแทงเหมือนดาบ แต่วาจาของคนเฉลียวฉลาดก็เยียวยารักษา"
(สุภาษิต 12:18) หากเราพยายามเป็นศูนย์รวมที่คอยให้กำลังใจแก่เพื่อนและครอบครัว
เราต้องมีสติและควบคุมคำพูดของเราอย่างรอบคอบ . คำพูดนั้นมีพลังมากมาย: มันสามารถทำร้ายหรือรักษาคนก็ได้
และคำพูดที่พูดด้วยความเร่งรีบแบบไม่ทันได้คิดหากมันออกจากปากเราไปแล้วเราไม่สามารถลบได้
การด่วนพูดพล่อย ๆ อาจทำให้เกิดแผลลึกทางใจและทำลายความสัมพันธ์.
วันนี้ให้เรามีสติควบคุมคำพูดของเราอย่างระมัดระวัง
ฝึกใช้คำพูดที่เสริมใจกันและกัน หลีกเลี่ยงการใช้คำที่แสดงถึงความโกรธแค้น จงจำไว้ว่าคำพูดของคุณมีพลังในการรักษาผู้อื่นหรือทำร้ายคนอื่นก็ได้
คุณสามารถพูดเพื่อยกใจ ชูใจ เสริมใจผู้อื่นหรือซ้ำเติมพวกเขาก็ได้ ดังนั้นคุณควรรู้จักยับยั้งปากของคุณ
และตระหนักเสมอว่าสิ่งที่คุณจะพูดออกไปนั้นมีผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร คุณควรมั่นใจว่าคำพูดที่จะเปล่งออกไปนั้นก็เพื่อเยียวยารักษา และเป็นพระพรแก่ผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อทำให้คนอื่นเจ็บปวด.
แน่นอน
คำพูดเป็นของประทานอันล้ำค่าจากพระเจ้า. ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าควรกระตุ้นเราให้ใช้ของประทานนี้ในทางที่ถูกไม่ใช่ในทางที่ผิด.
ขอเราจำไว้ว่าถ้อยคำที่เราพูดกับคนอื่นมีพลัง—พลังที่จะเสริมสร้างหรือไม่ก็ก่อผลในทางทำลาย.
ดังนั้น ขอให้เราพยายามจะใช้ของประทานนี้ตามที่ผู้ให้ทรงมุ่งหมาย คือ “[เพื่อ]
ทำให้เจริญขึ้น.” โดยวิธีนี้ คำพูดของเราจะยังความสดชื่นและให้กำลังใจแก่คนที่อยู่รอบข้างเรา
และจะช่วยเราให้เป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ.
ข้อคิด
“คำ ดี ๆ ทำให้เจริญขึ้น” มีสามลักษณะลักษณะเด่นของคำพูดที่เสริมสร้าง
นั่นคือ ก่อประโยชน์, เป็นความจริง, และเป็นคำพูดที่กรุณา.
นับจากนี้ขอให้เราพิจารณาให้ดีก่อนพูดอะไรออกไป
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
jw.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น