อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน
วันที่ 137 จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ถูกต้อง
25จงให้ตาของเจ้ามองตรงไปข้างหน้า
จดจ่อแน่วแน่ไม่หันเห
26จงเฝ้าระวังทุกย่างก้าวของเจ้า
และเดินอยู่ในทางนั้นอย่างมั่นคง
27อย่าหันไปทางขวาหรือทางซ้าย
จงยั้งเท้าของเจ้าไว้จากความชั่วร้าย
สุภาษิต 4: 25-27
วันนี้คุณกำลังสนใจเรื่องอะไรอยู่? คุณเต็มใจที่จะจดจ่อความคิดและพลังงานของคุณไปในการอยู่ในศีลในพรของพระเจ้าและให้ทุกอย่างในชีวิตของคุณเป็นไปตามน้ำพระทัยหรือไม่?
คนที่หวังว่าจะมีชีวิตตลอดไปบนโลกต้องรักษาใจให้ยึดมั่นกับสิ่งที่อยู่เบื้องบนโดยให้ความสำคัญกับพระเจ้าและราชอาณาจักรของพระองค์มาเป็นอันดับแรกในชีวิต (ลูกา
10:25-27) พระเยซูก็ทำอย่างนี้และนี่เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำด้วย (1 เปโตร.
2:21) ในศตวรรษแรก ผู้ที่มีความเชื่อต้องเจอกับการหาเหตุผลผิด
ๆ ปรัชญาความคิดแบบโลก และการนิยมวัตถุที่มีอยู่เต็มไปหมด ทุกวันนี้
เราเห็นว่าโลกของซาตานก็เป็นอย่างนั้นด้วย (อ่าน 2 โครินท์ 10:5)
เราต้องเลียนแบบพระเยซูและปกป้องความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าไว้ไม่ให้อะไรมาทำลายได้
เราปล่อยให้ความคิดแบบโลกที่ว่าต้องรวยต้องมีเงินมาก ๆ
ส่งผลต่อความคิดจิตใจของเราไหม? เราจะพิสูจน์ว่าเรารักอะไรจริง
ๆ ได้จากวิธีที่เราคิดและทำ พระเยซูอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อพระองค์บอกว่า
“ทรัพย์สมบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน ใจของเจ้าจะอยู่ที่นั่นด้วย” (มัทธิว.
6:21) เราต้องถามตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เรามัวแต่กังวลกับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ คิดแต่จะหางานที่ดีกว่า
หรือพยายามจะยกระดับชีวิตให้สะดวกสบายกว่านี้ไหม? หรือเราพยายามใช้ชีวิตเรียบง่ายและจดจ่ออยู่กับความสัมพันธ์ที่มีกับพระเจ้า?
(มัทธิว. 6:22)
พระเยซูบอกว่าถ้าเรามัวแต่จดจ่ออยู่กับ “ทรัพย์สมบัติ” ในโลก
เราก็อาจสูญเสียความสัมพันธ์กับพระเจ้า
อับราฮาม “เชื่อวางใจในพระเจ้า” และไม่ได้มัวแต่คิดถึง
“สิ่งที่อยู่บนแผ่นดินโลก” เขารักษาใจให้ยึดมั่นกับคำสัญญาของพระเจ้า เราจะเลียนแบบอับราฮามได้อย่างไร? ได้โดยการให้เราจดจ่อและรอคอยวันที่คำสัญญาต่าง ๆ
ของพระเจ้าเหมือนอย่างที่อับราฮามทำ และจงรักษาใจให้ยึดมั่นกับสิ่งที่อยู่เบื้องบน
เราอาจเคยรู้สึกว่าทำไมคำสัญญาของพระเจ้าถึงไม่สำเร็จสักทีจนทำให้ทำให้ความกระตือรือร้นในการทำงานรับใช้พระเจ้าที่เราเคยมีค่อย
ๆ น้อยลง ขอให้คุณอย่าหมดหวัง แต่ขอให้คุณจดจ่ออยู่กับพระพรที่คุณจะได้รับในอนาคตและ
“เชื่อวางใจในพระเจ้า
วันนี้ทำไมไม่ให้ความคิดของคุณจดจ่ออยู่กับความสุขที่เป็นของคุณอย่างแท้จริงในพระคริสต์? ทำไมไม่ใช้เวลาฉลองพระสิริอันรุ่งโรจน์ของพระเจ้า? ทำไมไม่ให้ความหวังแทนที่ความกลัวในใจคุณ?
เมื่อใดก็ตามที่คุณทำได้ คุณจะคิดในแง่ดีเกี่ยวกับตัวคุณและโลกของคุณ
.. และจากนั้นคุณคุณก็จะสามารถแบ่งปันการมองโลกในแง่ดีให้กับผู้อื่นได้ด้วย
ข้อคิด
”เราอยู่ในยุคที่ “เกิดวิกฤตกาลซึ่งยากจะรับมือได้” นี่เป็นเหตุผลที่ทำไมเราต้องรักษาใจของเราให้ยึดมั่นกับสิ่งที่ถูกต้องเพื่อจะใกล้ชิดกับพระเจ้าเสมอ
มี 3 วิธีที่เราจะทำอย่างนั้นได้
คือความประพฤติของเรา
เราต้องทำทุกอย่างที่เราทำได้เพื่อส่งเสริมชื่อเสียงของพระยะโฮวา
ไม่ว่าจะเป็นความประพฤติที่บ้าน ที่ทำงาน ที่โรงเรียน เมื่อพักผ่อน หรือในงานประกาศ
แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สมบูรณ์เราอาจทำผิดพลาดได้ (โรม 3:23) แต่เราไม่ควรท้อใจ
พระยะโฮวาจะช่วยเราให้ “ต่อสู้อย่างดีเพื่อความเชื่อ”
วิธีคิดของเรา เพื่อจะประพฤติอย่างดีเสมอ
เราจำเป็นต้องมีความคิดที่ถูกที่ควรด้วย พระเยซูมีวิธีคิดอย่างไร? พระเยซูทรงถ่อมตัวถ่อมใจ และสิ่งนี้ทำให้พระองค์ต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่พระเจ้า
พระเยซูคิดถึงงานประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าเสมอ พระเยซูไม่เคยทำอะไรตามใจตัวเอง
แต่เชื่อฟังและทำตามสิ่งที่พระเจ้าบอกเสมอ พระเยซูขยันศึกษาพระคัมภีร์เพื่อจะยกข้อคัมภีร์ขึ้นมากล่าว
เพื่อจะอธิบายพระคัมภีร์ได้และปกป้องพระคัมภีร์ด้วย ดังนั้น ถ้าเราเป็นคนถ่อมใจ
ขยันศึกษาพระคัมภีร์และกระตือรือร้นในงานรับใช้
เราก็จะยิ่งมีความคิดเหมือนพระคริสต์มากขึ้น
การมีส่วนร่วมของเรา พระเจ้าต้องการให้
“ใครก็ตามที่อยู่ในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก” อยู่ใต้อำนาจของพระเยซู ถึงแม้ว่าพระเยซูมีตำแหน่งที่สำคัญมาก
ๆ แต่ท่านก็ยังถ่อมตัวและยอมอยู่ใต้อำนาจพระบิดาของท่าน เราเองก็ควรทำอย่างนั้นด้วย
เรามีส่วนร่วมในงานของพระเจ้าเมื่อเรา “สอนคนจากทุกชาติให้เป็นสาวก” เมื่อเราทำสิ่งดี
ๆ ให้เพื่อนบ้านและพี่น้องของเรา เราก็ได้ “ทำดีต่อทุกคน” เราต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทรงคอยเตือนเราให้รักษาใจให้ยึดมั่นกับสิ่งที่อยู่เบื้องบนเสมอ!
เราต้อง “วิ่งด้วยความเพียรอดทน” และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ถูกต้อง (ฮีบรู
12:1) ขอให้เราตั้งใจทำทุกอย่าง
“สุดชีวิตอย่างที่ทำถวายพระเจ้า” และมั่นใจว่าพระบิดาบนสวรรค์ของเราจะอวยพรเราอย่างเต็มที่
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
jw.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น