อ่านพระคัมภีร์
365 วัน
วันที่ 126 การผัดวันประกันพรุ่ง
13ให้เราประพฤติตนอย่างเหมาะสมเหมือนอยู่ในเวลากลางวัน
ไม่เที่ยวมั่วสุม เสพสุราเมามาย ไม่ทำผิดศีลธรรมทางเพศและเสเพล
ไม่แตกก๊กแตกเหล่าและอิจฉาริษยากัน 14แต่จงประดับกายด้วยองค์พระเยซูคริสต์เจ้า
และอย่าคิดว่าจะสนองความปรารถนาของวิสัยบาปอย่างไรดี
โรม 13:13-14
คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่า?
ที่ชอบคิดว่า มีเวลาเหลือเฟือในการทำสิ่งต่างๆให้เสร็จ
คือแทนที่จะทำซะเดี๋ยวนี้เลย ก็ขอเลื่อนออกไปก่อน
และท้ายที่สุดก็ต้องมานั่งทำงานภายใต้แรงกดดัน
เพื่อให้เสร็จทันภายในเวลาที่เหลือน้อยนิด หรือใช้เวลาคิดเรื่องงานที่ต้องแก้ปัญหา
แต่ก็ผลัดไปเรื่อยๆ บอกตัวเองว่าไม่รู้จะเริ่มเมื่อไหร่ดี ถ้ามีอาการเช่นนี้ คุณก็คือคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งนั่นเอง
จริงๆแล้วการผัดวันประกันพรุ่ง
เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่น่ารังเกียจที่สุดของมนุษย์ เพราะเป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
แต่ที่น่าประหลาดที่สุดคือ คนเรามีแนวโน้มสูงที่จะผัดวันประกันพรุ่งในเรื่องสำคัญที่สุดสำหรับตัวเอง
และมีบ่อยครั้งซึ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองอยากทำมาก
เพราะรู้ว่ามันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายหลักในชีวิตได้ แต่ก็ยังเลื่อน
จนกระทั่งเลือน และลืมไปในที่สุด หลายคนอาจผัดวันประกันพรุ่ง
จนกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดี และมักบอกตัวเองว่า วันนี้ ไม่อยากทำงานอย่างนี้
เอาไว้วันหลังค่อยทำก็ได้ นั่นเท่ากับกำลังหลอกตัวเอง
เพราะมันไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากความจริงที่ว่า ต้องทำงานนั้นให้เสร็จ
แต่มันยิ่งจะทำให้เครียดหนักกว่าเดิม
เพราะบางครั้งมีงานรออยู่อีกเพียบที่ต้องทำให้เสร็จ และบางทีก็ไม่อาจ คาดเดาได้ว่า
จะมีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้างที่ทำให้งานไม่เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด
นิสัยของการผัดวันประกันพรุ่งจะต้องใช้เวลาถึงสองเท่าในการทำสิ่งนั้น ๆ เวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่าอย่างยิ่งของชีวิต
เพราะทุกกิจกรรมที่ทำ ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น ชีวิตของแต่ละคนบนโลกนี้กำหนดโดยเวลาเกิดซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น
และเวลาตายซึ่งเป็นจุดสิ้นสุด เราทุกคนได้เวลาเท่าเทียมกันคือวันละ
24ชั่วโมง แต่การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิผลนั้นต่างกัน บางคนสามารถทำงานได้ลุล่วงไปมากในช่วงเวลาหนึ่งวัน
ในขณะที่บางคนแทบไม่ได้ทำอะไรให้เกิดผลเป็นชิ้นเป็นอันเลยในแต่ละวัน สาเหตุสำคัญคือความเกียจคร้านในการทำงาน
การผัดวันประกันพรุ่ง ใครก็ตามที่ปล่อยให้สองอย่างนี้เกาะติดในชีวิตจนเป็นนิสัย
ความล้มเหลวและความตกต่ำจะเป็นผลตอบแทนในชีวิต แม้จะมีโอกาสที่ดี
ก็ไม่อาจฉวยโอกาสสร้างความสำเร็จและความก้าวหน้าให้กับตัวเองได้เวลาเดินอย่างสม่ำเสมอตลอดปี
การผัดวันประกันพรุ่ง มีหลายสาเหตุ เช่น
- - การไม่มีวินัยในการทำงาน
- - กลัวทำไม่สำเร็จ เพราะเราอาจไม่รู้บางเรื่อง และเราต้องศึกษาเพิ่มเติม
หรือเราขาดความมั่นใจที่จะทำงานนั้นต่อ
- - มีสิ่งรบกวนมากไป ไม่ว่าจะเป็น หนัง เกมส์ หรือ Facebook อินสตราแกรม Line ฯลฯ
- - งานชิ้นใหญ่ ทำไม่ไหว
ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเสร็จ
- - ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน บรรยากาศไม่เอื้ออำนวย
- - หมดความสนใจในงาน งานมันน่าเบื่อ
วิธีบอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่ง คือคุณต้อง 1วางแผนการทำงาน เพื่อกระตุ้นว่าต้องทำให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด
การจัดตารางเวลาจะช่วยให้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง -2 แบ่งงานชิ้นใหญ่เป็นชิ้นย่อยๆ หากซอยงานนั้นให้เป็นชิ้นเล็กๆ
ก็จะทำเสร็จได้ง่ายขึ้น - 3ให้รางวัลตัวเอง
จงให้รางวัลตัวเองทุกครั้งที่ทำงานเสร็จในเวลาที่กำหนด - 4คิดในแง่บวก เปลี่ยนวิธีมองตัวเองและงานที่อยู่ในมือ
และฝึกการคิดในแง่บวกให้มากๆ - 5ลงมือทำเดี๋ยวนี้ อย่าทิ้งตารางการทำงานของคุณไว้บนโต๊ะเฉยๆ
ลงมือทำทันที และต้องทำอย่างมีสมาธิ การบอกลานิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
ไม่ยากเลย และเป็นสิ่งที่ควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง
เพราะนอกจากจะทำให้คุณคลายเครียดในการทำงานแล้ว
ยังช่วยให้มีความสุขในชีวิตมากขึ้นอีกด้วย พระเจ้าได้สร้างโลกที่มีบทลงโทษแก่ผู้ที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งและมีรางวัลให้แก่คนที่
"ลงมือทำเดี๋ยวนี้" ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่สดใส คุณต้องไม่ผัดวันประกันพรุ่ง
ข้อคิด
มันง่ายที่เราจะเลื่อนงานที่เราไม่พึงประสงค์อยากจะทำออกไปทำ
"ภายหลัง" แต่กลยุทธ์ที่ดีกว่านั้นคือ:
ให้เราทำงานที่ไม่พึงประสงค์เหล่านั้นก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อที่เราจะได้สามารถเพลิดเพลินกับวันเวลาที่เหลือ
โดยไม่ต้องมาพะวง ห่วงงานเหล่านั้นอยู่อีก การผัดวันประกันพรุ่งในระยะยาวเป็นสาเหตุของความผิดหวังในชีวิต ข้อแนะนำ “ถ้าคุณไม่ลงมือทำ
งานก็ไม่มีวันเสร็จ แทนที่จะปล่อยให้เรื่องนั้นคาราคาซังอยู่
ลงมือทำซะ แล้วคุณจะหมดกังวล”
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
mgronline.com
nicetofit.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น