ความใกล้ชิดกับพระเจ้า
ของขวัญล้ำค่าที่สุดที่พระเจ้าประทานแก่เราคือสิทธิพิเศษของความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับพระองค์
7แต่สิ่งใดๆ ที่เคยเป็นกำไรของข้าพเจ้า
บัดนี้ข้าพเจ้าถือว่าขาดทุนเพื่อเห็นแก่พระคริสต์
8ยิ่งกว่านั้นอีกข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ล้ำเลิศในการที่ได้รู้จักพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า
เพื่อพระองค์ข้าพเจ้าได้สละทุกสิ่ง
ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเศษขยะเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์
9และอยู่ในพระองค์ ตัวข้าพเจ้าเองไม่มีความชอบธรรมที่ได้มาโดยบทบัญญัติ
มีแต่ความชอบธรรมที่ได้มาโดยความเชื่อในพระคริสต์
เป็นความชอบธรรมซึ่งมาจากพระเจ้าและได้มาโดยความเชื่อ
10ข้าพเจ้าต้องการรู้จักพระคริสต์และมีประสบการณ์ในฤทธิ์อำนาจแห่งการคืนพระชนม์ของพระองค์และร่วมสามัคคีธรรมในการทนทุกข์ของพระองค์
เป็นเหมือนพระองค์ในการสิ้นพระชนม์ 11เพื่อจะได้เป็นขึ้นจากตายโดยทางใดทางหนึ่ง
ฟีลิปปี 3:7-11
เป้าหมายของชีวิตคริสเตียนคืออะไร? บางคนอาจบอกว่าคือการเป็นคนชอบธรรมมากขึ้นหรือแบ่งปันข่าวดีเรื่องความรอดแก่ผู้อื่นให้มากขึ้น
แต่อัครสาวกเปาโลกล่าวว่าเป้าหมายของเขาคือการรู้จักพระคริสต์อย่างใกล้ชิด ซึ่งนี่ควรเป็นการแสวงหาเรื่องหลักๆของคุณด้วยเช่นกัน จริงไหม! เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของเราคือการใช้ชีวิตอย่างชอบธรรม ความหลงใหลในพระกิตติคุณ(พระวรสาร/พระวจนะของพระเจ้า)ก็จะตามมา
ความใกล้ชิดจะเติบโตขึ้นเมื่อเราดื่มด่ำกับพระวจนะของพระเจ้า โดยการอ่าน การศึกษา และการใคร่ครวญพระคัมภีร์ พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์แก่เรา
แต่ความใกล้ชิดไม่ใช่แค่การฝึกจิตใจเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมของอารมณ์ของเราในขณะที่เรารัก รับใช้ และนมัสการพระองค์ ยิ่งเรารู้จักพระเจ้าผ่านพระวจนะของพระองค์มากเท่าไหร่
ความรักและความทุ่มเทของเราต่อพระองค์ก็จะยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเท่านั้น
ลักษณะที่สำคัญอีกประการหนึ่งของความใกล้ชิดกับพระเจ้าคือความปรารถนาที่จะเชื่อฟังพระองค์มากขึ้น เพราะเมื่อเราปรับใจและความคิดของเราให้สนใจสิ่งที่สำคัญต่อพระเจ้า
เราจะยินดีทำตามที่พระองค์ตรัส
คุณได้จัดการกับความสัมพันธ์แบบผิวเผินที่คุณมีต่อพระเจ้าอยู่หรือเปล่า? เพราะว่าความรอดไม่ใช่แค่ประตูสู่สวรรค์ แต่เป็นเส้นทางสู่การเติบโตในพระคุณและความรู้ของพระผู้ช่วยให้รอดจนกว่าเราจะมีความสัมพันธ์ที่น่าพอใจที่สุด
วันนี้เริ่มสำรวจตัวเองว่าคุณได้ใช้สิทธิพิเศษที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้กับคุณอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง? ถ้ายัง จงเริ่มบริหารและจัดการเวลาของคุณใหม่ แล้วใช้เวลากับพระองค์อย่างรู้คุณค่า
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น