การรู้จักพระทัยของพระเจ้า
พระบิดาของเราทรงสัญญาว่าเมื่อเราต้องการรู้จักพระองค์อย่างแท้จริง
เราก็จะได้รู้จักพระองค์
11เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก
ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็ก คิดอย่างเด็ก ใช้เหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ข้าพเจ้าก็ทิ้งวิถีทางอย่างเด็กไว้เบื้องหลัง
12เวลานี้เราเห็นแต่เงาสะท้อนเลือนรางเหมือนมองในกระจก
แต่เวลานั้นเราจะเห็นกันหน้าต่อหน้า เวลานี้ข้าพเจ้ารู้เพียงบางส่วน
แต่เวลานั้นข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนที่ทรงรู้จักข้าพเจ้าอย่างแจ่มแจ้ง 13ฉะนั้นสามสิ่งนี้ยังคงอยู่คือ
ความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักยิ่งใหญ่ที่สุด
1 โครินธ์ 13:11-13
พวกเราส่วนใหญ่ต่างก็ปรารถนาให้คนที่เรารัก
รู้จักเราอย่างแท้จริงไม่ใช่แบบผิวเผิน
ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลเพราะว่าเราถูกสร้างขึ้นมาตามพระฉายาของพระเจ้า พระองค์ทรงปรารถนาให้เราเข้าใจพระองค์และพระองค์ทรงรักเราอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
พระองค์ทรงต้องการแบบเดียวกันกับคุณ
พระองค์ไม่อยากให้เรารู้จักพระองค์แค่เพียงรายละเอียดผิวเผิน ดังนั้น การรู้เรื่องพระเจ้าเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ
พระองค์ทรงต้องการให้เราเรียนรู้ว่าพระองค์ทรงคิดและรู้สึกอย่างไร
สิ่งใดสำคัญสำหรับพระองค์ และพระประสงค์ของพระองค์คืออะไรด้วย แน่นอน
เป็นไปไม่ได้ที่เราจะรู้พระดำริของพระองค์อย่างสมบูรณ์ ในอิสยาห์
55:9 พระองค์บอกเราว่า ““ฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกฉันใด วิถีของเราก็สูงกว่าทางของเจ้า
และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น” ความลึกซึ้งและความกว้างแห่งพระดำริของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่จนเราไม่สามารถเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ในชีวิตนี้
อย่างไรก็ตาม เราสามารถเข้าใจพระทัยของพระเจ้าได้ดีขึ้นโดยการแสวงหาพระองค์และเรียนรู้จากพระวจนะของพระองค์
หากเราปรารถนาจะดำเนินในทางของพระองค์
เราต้องรู้จักพระองค์อย่างแท้จริงเสียก่อน เช่นเดียวกับที่เรารู้จักเพื่อนของเราได้ดีขึ้นโดยการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
เราจะเข้าใจพระเจ้าได้มากขึ้นเมื่อเราเดินกับพระองค์นานขึ้น
พระเจ้าต้องการให้คุณแสวงหาพระองค์อย่างสุดใจ
และพระองค์ทรงสัญญาว่าเมื่อคุณแสวงหา คุณจะพบพระองค์ (เยเรมีย์ 29:13) ดังนั้น
ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกว่าคุณจำเป็นต้องได้รับการเข้าใจมากขึ้น ให้หันไปหาผู้ที่เข้าใจคุณอย่างถ่องแท้
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ขอให้พระองค์ช่วยให้คุณรู้จักพระองค์ดีขึ้นในทุกๆวัน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
intouch.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น