วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

ความสุขมีแก่ท่านเมื่อคนทั้งหลายสบประมาท

 


จงกล้าหาญและใช้ปัญญาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้ง

วิธีที่เราใช้จัดการความขัดแย้งสามารถส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างได้อย่างมาก

 

อ่าน มัทธิว 5:3-16

3“ความสุขมีแก่ผู้ที่สำนึกว่าตนขัดสนฝ่ายจิตวิญญาณ

เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขาแล้ว

4ความสุขมีแก่ผู้ที่โศกเศร้า

เพราะเขาจะได้รับการปลอบประโลม

5ความสุขมีแก่ผู้ที่ถ่อมสุภาพ

เพราะเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก

6ความสุขมีแก่ผู้ที่หิวกระหายความชอบธรรม

เพราะเขาจะได้อิ่มบริบูรณ์

7ความสุขมีแก่ผู้ที่เมตตากรุณา

เพราะเขาจะได้รับความเมตตากรุณาตอบแทน

8ความสุขมีแก่ผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์

เพราะเขาจะได้เห็นพระเจ้า

9ความสุขมีแก่ผู้ที่สร้างสันติ

เพราะเขาจะได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า

10ความสุขมีแก่ผู้ที่ถูกข่มเหงเพราะความชอบธรรม

เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขาแล้ว

11“ความสุขมีแก่ท่านเมื่อคนทั้งหลายสบประมาท ข่มเหง และใส่ร้ายป้ายสีท่านเพราะเรา 12จงชื่นชมยินดีเถิดเพราะบำเหน็จของท่านในสวรรค์ยิ่งใหญ่นัก เพราะพวกเขาได้ข่มเหงบรรดาผู้เผยพระวจนะที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน

13“ท่านทั้งหลายเป็นเกลือของโลก แต่ถ้าเกลือนั้นหมดความเค็มแล้วจะทำให้กลับเค็มอีกได้อย่างไร? มันก็ไม่มีประโยชน์อันใดอีกต่อไป มีแต่จะถูกสาดทิ้งให้คนเหยียบย่ำ

14“ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้ไม่ได้ 15เช่นเดียวกัน เมื่อคนจุดตะเกียงแล้วย่อมไม่เอาฝาครอบ แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียงให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน 16ในทำนองเดียวกัน จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย เพื่อเขาจะเห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์

 

ความรอดไม่ได้รับประกันว่าเราจะมีชีวิตที่เรียบง่าย และ เราไม่สามารถหลีกหนีความขัดแย้งได้ ดังนั้น จึงควรเรียนรู้ที่จะเผชิญกับมันด้วยความกล้าหาญและด้วยปัญญา ความสุขในความเชื่อของเราคือการที่พระเจ้าประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่เราเพื่อจัดการกับทุกสิ่งที่เข้ามา และพระองค์สามารถใช้สิ่งที่ยากให้เกิดผลดีในชีวิตของเรา

 

พิจารณาแบบอย่างของพระเจ้า พระเยซูทรงเป็นพระเจ้าโดยสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์เช่นกัน นั่นหมายความว่าพระองค์ทรงเข้าใจความเจ็บปวดของการปฏิเสธ เช่นเดียวกับที่เราเข้าใจ (ฮีบรู 4:15) ถึงกระนั้นพระองค์ก็ไม่เกรงกลัวการท้าทายสถานะที่เป็นอยู่ซึ่งผู้นำทางศาสนาเรียกร้องให้พระองค์สิ้นพระชนม์ พระองค์ทรงเป็นศูนย์กลางของการโต้เถียงตลอดการปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พระองค์มักปลีกตัวไปอยู่ตามลำพังกับพระบิดา ช่างเป็นการปลอบโยนที่ช่วยให้เราตระหนักว่าพระบิดาทรงเข้าใจเมื่อเราต้องอยู่ท่ามกลางการข่มเหงเช่นกัน

 

การตระหนักรู้นั้นยังสามารถช่วยให้เรามีความสัมพันธ์กับพระคริสต์ในรูปแบบใหม่อย่างลึกซึ้ง และทำตามแบบอย่างความสัตย์ซื่อของพระองค์ แม้เมื่อเราถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือถูกปฏิเสธ เพียงแค่เป็นคนที่พระเจ้าสร้างให้เราเป็น ก็สามารถสร้างผลกระทบต่อคนรอบข้างได้แล้ว สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้ ดังนั้นขอให้พระเจ้าช่วยให้คุณมีความพยายาม และวางใจว่าพระองค์กำลังทำงานของพระองค์อยู่!

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ


 intouch.org

 

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...