จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน

วันที่ 98 - จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า

7จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์

อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา

เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี

สดุดี 37: 7

โลกของเรามีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ความต้องการในแต่ละวันของเรานั้นก็ดูล้นหลามเสียเหลือเกิน  แต่หากเราชะลอหรือลดความต้องการของเราลงบ้างและเปลี่ยนไปเป็นค้นหาการประทับอยู่ของพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรักแทน ก็เท่ากับเราได้เชิญสันติสุขมาสู่จิตใจของเรา

คุณได้แบ่งหรือกำหนดช่วงเวลาที่เงียบสงบในแต่ละวันเพื่อขอบคุณพระเจ้าและถวายเกียรติแด่พระผู้สร้างของคุณบ้างหรือไม่? คุณควรจะทำสิ่งนี้เป็นอันดับแรกของทุกวัน. เพราะในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบนี้คุณจะได้รู้สึกและสัมผัสถึงความรักและพลังของพระบิดาของเรา การใช้เวลากับพระเจ้าเพื่อการไตร่ตรองชีวิตจะช่วยให้คุณได้ทราบว่าพระองค์ทรงพยายามบอกอะไรคุณ? ในทุกการเปลี่ยนแปลงของชีวิต พระองค์ทรงพยายามบอกคุณว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยให้คุณอยู่รอดได้เหนือ  ความยากสำบาก นั่นก็คือ เมื่อคุณสร้างอยู่บนศิลา ซึ่งพระองค์หมายถึง การรักษาบัญญัติของพระองค์ สิ่งนี้สิ่งเดียวที่จะทำให้คุณตั้งมั่นอยู่ท่ามกลางพายุและความเครียดทั้งหมดของชีวิตได้ พระเจ้าทรงตรัสว่าจงคอยพระองค์อย่างอดทนแม้ในช่วงที่มีการข่มเหงและความทุกขเวทนาสุดแสน  ดังนั้นให้เรา “คอยพระเจ้าอย่างอดทน และสวดอ้อนวอนต่อพระองค์อย่างสม่ำเสมอ “

“จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์ อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี” พระวาจาในวันนี้ต้องการเตือนใจเราว่า อย่าอิจฉา หรือเป็นกังวล สงสัย หากเราต้องเห็นคนทำชั่วได้ดี และมีชีวิตที่มั่งคั่ง ร่ำรวยฝ่ายโลกอย่างต่อเนื่อง “ทำชั่วได้ดีมีถมไป” คำพูดนี้อาจจะออกมาจากความท้อแท้หรือน้อยเนื้อต่ำใจ ของคนที่ทำดีแล้วไม่ได้ดี เห็นแต่คนที่ทำไม่ดีกลับได้ดี เพราะเป็นสิ่งที่พบเห็นกันได้บ่อย ๆในทุกสังคม ดังนั้นให้เราถามตัววเองว่า การที่เราทำดีนั้นเราทำเพื่ออะไร? หากคำตอบคือ ก็เพื่อเป็นการ "ทำเพื่อให้ผู้อื่นได้รับสิ่งดีๆ และเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า  เราก็ควรจะรู้สึกดีและมีความสุขที่เราได้ทำให้ผู้อื่น สิ่ง ๆ นี้เป็นสิ่งที่วิเศษที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็น มีแต่เราและพระเจ้าเท่านั้นที่รับรู้  เราอย่าไปหวังที่วัตถุมากเกินไป และอย่าท้อถอยกับการทำความดีเพราะอย่างน้อยเราก็ได้ทำ อย่างน้อยเราก็รู้สึกดี ถึงผลที่เราคาดหวังไว้จะไม่เป็นไปตามคิด ยกตัวอย่างเช่น บางคนได้ดีจากการทำผิดต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน หรืออาศัยทางลัด(ทางบาป)ในการประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ เราขยันตั้งใจทำงาน เพื่อต้องการให้งานออกมาดี เราทุ่มเททั้งกายใจและเวลาแต่กลับเจอปัญหาต่าง ๆ รอบด้าน แต่เมื่อมองไปดูคนอื่นที่ไม่ค่อยรับผิดชอบในหน้าที่ หรือบางคนทำผิดต่อหน้าที่ กลับได้รับการเอาใจใส่อย่างดีเพราะเขาประจบ สอพลอเป็น   เราต้องดึงจิตใจของเรากลับมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นเราจะจมอยู่กับความรู้สึกไม่ดีแบบนั้นและมันไม่ได้เป็นผลดีต่อเราเลย  ถึงจะยังไงก็ตามเราก็ต้องจะพยายามทำดีต่อไป ต้องใช้คำว่าพยายามให้มากกว่าเดิม เพราะความพยายามเป็นการบ่งบอกถึงความพร้อม ความตั้งใจ ที่เราอยากจะเป็นคนที่ดีขึ้นพื่อพระเจ้า    มันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่ต้องไปตัดสินคนอื่น แต่หน้าที่ของเราคือการอธิษฐานเผื่อเขา เพื่อว่าเขาจะสามารถกลับใจและหยุดการกระทำที่ไม่ดีเหล่านั้น ขอให้คุณอย่าท้อที่จะทำการดี คิดดี และมีวาจาที่ดี ถึงแม้บนโลกนี้จะไม่มีใครเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณตั้งใจทำก็ตาม ขอให้คุณเชื่อมั่นว่าพระบิดาแห่งสวรรค์ทรงจับตามองคุณอยู่ พระองค์ทรงภูมิใจในตัวคุณ  ขอให้คุณรักษาความดีนั้นต่อไป และมีความหวังในพระเจ้าอยู่เสมอ

คำที่คุ้นเคยในบทสดุดี 46:10 เตือนให้เรา "“จงนิ่งสงบและรู้ว่าเราเป็นพระเจ้า" เมื่อเราทำเช่นนั้น เราจะสัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระบิดาผู้ทรงฤทธิ์ พระบิดาแห่งความรักของเราและจงเชื่อมั่นว่าพระองค์มีแผนการดีเพื่อคุณรออยู่อีกมากมาย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักของลูกทั้งหลาย  เมื่อลูกร้อนใจ -เป็นกังวล - เป็นทุกข์กับเรื่องบางเรื่อง หรือคิดวอกแวกออกนอกลู่นอกทาง ขอพระองค์ทรงช่วยเปลี่ยนความคิดของลูกให้กลับเข้ามาในทางของพระองค์ เมื่อลูกเกิดสับสนขอพระองค์โปรดประทานมุมมองใหม่ให้กับลูกเพื่อลูกจะได้มองสิ่งนั้นๆด้วยมุมมองของพระองค์ และโปรดช่วยให้ลูกระลึกไว้เสมอว่าพระองค์ทรงอยู่กับลูกเสมอ และขอให้ลูกสามรถรับรู้ถึงการประทับอยู่ของพระองค์ได้ทั้งในตอนนี้และตลอดไป อาเมน