อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน
วันที่ 164 - ความรู้และภูมิปัญญา
3บ้านนั้นสร้างขึ้นโดยสติปัญญา และสถาปนาขึ้นด้วยความเข้าใจ
4โดยความรู้ ห้องต่างๆ ก็เต็มไปด้วย ทรัพย์สมบัติล้ำค่าที่งดงามและหายาก
สุภาษิต 24: 3-4
ข้อพระคัมภีร์ตอนต้นได้เน้นย้ำถึงสติปัญญา ความเข้าใจ และความรู้
ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่จำเป็นสำหรับการสร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
พระคำภีร์ได้กล่าวว่าโดยสติปัญญา “บ้าน” ถูกสร้างขึ้น บ้านนั้นอาจหมายถึงชีวิตของคุณ
ธุรกิจ อาชีพ หรือครอบครัว และกล่าวต่อไปว่าเมื่อ “บ้าน”
นั้นถูกสร้างขึ้นก็ถูกสถาปนาไว้โดยความเข้าใจ
และโดยความรู้ก็จะนำความมั่งคั่งเข้ามาในบ้านนั้น
หลายครั้งคุณพบกับผู้คนที่ชีวิตของเขามีความกลุ้มใจและไม่มีความสุข
เพราะเหตุผลง่ายๆ ก็คือว่า พวกเขาขาดสติปัญญา
บางคนมีบางอย่างในชีวิตของเขาที่ราบรื่นดี อาจเป็นอาชีพหรือการงานของพวกเขา
แต่พวกเขายังไม่มีความสุข เพราะว่าครอบครัวของพวกเขาแตกแยก ทำไม? เพราะว่าพวกเขาขาดความเข้าใจ
เพราะโดยความเข้าใจที่ทำให้ครอบครัวได้รับการสถาปนาและเข้มแข็ง
พวกเขามีสติปัญญาเพียงพอที่จะเริ่มต้นครอบครัว แต่ขาดความเข้าใจที่จะสถาปนามันไว้
บางคนมีสติปัญญาและความเข้าใจเพียงพอที่จะจัดการกับครอบครัวหรือธุรกิจของพวกเขา
แต่ขาดความรู้ที่จำเป็นในการจะทำให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจากสง่าราศีสู่สง่าราศี
สติปัญญา ความเข้าใจ และความรู้จะต้องไปด้วยกัน
ทั้งสามสิ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ความรุ่งเรือง
และพึงพอใจอย่างครบถ้วน สุภาษิต 4:7 บอกเราว่าสติปัญญาคือหลักการ
เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของคุณ “ปัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ฉะนั้นจงเอาปัญญา
แม้เจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความเข้าใจไว้”
สังเกตว่าพระคัมภีร์ไม่ได้หยุดที่ให้เรารับสติปัญญาเท่านั้น แต่กล่าวต่อไปว่า
“…แม้เจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความเข้าใจไว้”
ทำให้คุณรู้ว่าความเข้าใจนั้นก็สำคัญเช่นกัน
และในสุภาษิต 15:5 เราได้รับการเตือนที่จะไม่เพิกเฉยต่อความรู้
พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า คนที่ไม่สนใจต่อความรู้คือคนโง่ สติปัญญา ความรู้
และความเข้าใจมาถึงคุณผ่านทางพระคำศักดิ์สิทธิ์ “เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานปัญญา
ความรู้และความเข้าใจออกมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์” (สุภาษิต 2:6)
คุณต้องการทั้งสามสิ่งนี้ในการที่จะเกิดผล และดำเนินชีวิตแห่งความสำเร็จ
การครอบครอง ชัยชนะและความความยอดเยี่ยมที่ไม่ธรรมดา
ซึ่งพระเจ้าได้ตั้งไว้สำหรับคุณ
ข้อคิด
เราควรถามตนเองอยู่เสมอว่า
“ฉันกำลังเติบโตขึ้นในด้านสติปัญญาหรือเปล่า?” เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง
ดังนั้นเมื่อแต่ละวันผ่านไปหากเราไม่ได้เติบโตเป็นคนที่น่ารักและงดงามขึ้นก็แสดงว่าเรากำลังกลายเป็นคนที่โง่เขลาและร้ายกาจ
เรากำลังเติบโตไปทางไหน?
ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเติบโตด้านสติปัญญา
พระเจ้าทรงรักเราด้วยความรักอันยิ่งใหญ่
ซึ่งสามารถนำเราให้รอดพ้นจากความโง่เขลา หากเรายอมจำนนต่อพระองค์ ความรักของพระองค์สามารถเปลี่ยนนิสัยที่ดื้อด้านที่สุดให้กลายเป็นความงามอันน่ามหัศจรรย์
เราอาจต้องเจ็บบ้างและอาจต้องใช้เวลาสักระยะ
แต่พระเจ้าไม่เคยหยุดยั้งที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เมื่อเราทูลขอ
พระปัญญาของพระองค์จะเกิดขึ้นในเราและหลั่งไหลไปสู่ผู้อื่น ถ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติปัญญา ก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า - ยากอบ
1:5
ข้าพระองค์ขอบพระคุณพระบิดาที่ได้ประทานพระวิญญาณแห่งสติปัญญา ความเข้าใจ
และความรู้ แก่ข้าพระองค์ ซึ่งทำให้ข้าพระองค์สามารถดำเนินชีวิตอย่างฉลาด
ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตของพระเจ้าอย่างเต็มที่ เติบโตขึ้นในพระคุณ
และเพิ่มพูนในสติปัญญาและความเข้าใจ โดยพระวิญญาณ
และผ่านทางความรู้แห่งพระคำของพระองค์ ในนามพระเยซู อาเมน
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
thaiodb.org
rorthai.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น