กำลังใจสำหรับทุกวัน
โลกใบนี้
ไม่มีใครที่ไร้ประโยชน์หรือไร้ศักยภาพจนเกินไปหรอก
เพียงแต่มันอาจอยู่ผิดที่ผิดทางผิดเวลา หรืออยู่ผิดคนก็เท่านั้น
ดังนั้นอย่ากลัวสายตาของคนอื่น ที่มองมาแต่ที่เราต้องกลัวคือ
กลัวว่าตัวเองอาจจะไม่รักดี แล้วเห็นผิดเป็นชอบ
ในชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเพื่อให้เรื่องราวกระจ่างแจ้งชัดในทุกเรื่องก็ได้
เพราะน้ำที่ใสสะอาดเกินไปไร้ปลา คนที่ใสสะอาดเกินไปไร้เพื่อน
(เอาจริงๆแล้วมนุษย์เราชอบคนหลายบุคลิกหรือเรียกว่าคนหลายหน้า
นี่คือการเอาตัวรอดในสังคม)
การทะเลาะกันเพราะเหตุผล ที่เสียหายคือความสัมพันธ์
และที่เจ็บปวดกว่าใครนั้นก็คือ ตัวเราเอง
#พูดให้น้อย #ฟังให้มาก
#ตัดสินให้น้อย #ยอมรับให้มาก
#อคติให้น้อย #รักให้มาก
#ขี้เกียจให้น้อย #ลงมือทำให้มาก
นี่แหละวิถีชีวิตของคนมีความสุข
แต่ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าไปสร้างทุกข์ให้คนอื่นเขาก็พอ
#หงุดหงิดโมโหให้น้อย #อภัยให้มาก
อย่าให้คำพูดคำสอน
เป็นเพียงแค่ลมที่ออกจากปาก แต่ให้การดำเนินชีวิตสะท้อนและสัมพันธ์ ไปกับสิ่งที่เราพูดด้วย
การมีชีวิตที่ดี แตกต่างจาก การดำเนินชีวิตที่ดี เมื่อคำพูดของคุณสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตจริง
มันจะเป็นตัวชี้คุณค่าและการศึกษาของเราได้ดีกว่าใบปริญญา ต่อให้เรียนน้อย รู้น้อย
มีคนยอมรับน้อย แต่เราก็มีค่าในสายตาพระผู้สร้างของเราเสมอ
ผู้มีเมตตา
จะไม่ซ้ำเติมคนอ่อนแอ แต่จะให้กำลังใจในทางคำพูด การกระทำ
คนอ่อนแออยู่ไม่ไกลจากเราเลยถ้าเรามีเมตตาจิตภายใน ขอให้วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่คนอ่อนแอจะได้รับความสนใจจากเรา
ขอให้วันนี้คนอ่อนแอจะได้รับการสัมผัสรักจากเรา ขอให้มั่นใจเถิดว่า
ผู้ที่แสดงความเมตตาจะได้รับความเมตตาเช่นกัน
•
บางครั้งการพยายามพูดอธิบายอย่างดีที่สุด
ก็ฉลาดสู้การนิ่งเงียบไม่ได้
• เพราะบางทีการพูดความจริงให้น่าเชื่อ
นั้นอาจยากกว่า
พูดให้คนเชื่อเรื่องโกหกเสียอีก
โดยเฉพาะถ้าความจริงนั้น
ดันไม่ตรงกับความเชื่อของคนฟัง
•
คนดีตัดสินคุณจากผลงาน
คนพาลตัดสินคุณจากเสียงลือ
บางครั้งเสื้อผ้า
หน้าผม ที่ปกคลุมอยู่ภายนอก
ก็ไม่ได้ทำให้จิตใจของมนุษย์คนไหน
สูงเด่นขึ้น
เพราะในสายตาของพระเยซูเจ้าแล้ว
พระองค์มองดูที่
ผลของการดำเนินชีวิต ท่าทีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์
รูปลักษณ์ภายนอก
การศึกษา...ไม่ได้บอก ถึง นิสัยภายในที่แท้จริง
มโนธรรม
คือความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ความรู้สึกว่าอะไรควรทําอะไรไม่ควรทํา และเมื่อเราทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
ผลรางวัลตอบแทนทางโลกของเราจะไม่มีวันสิ้นสุดและรางวัลทางสวรรค์ของเราก็จะไม่มีวันสิ้นสุดด้วยเช่นกัน หากชีวิตที่ผ่านมาคุณรู้จักฟังเสียงของมโนธรรม และรู้จักผิดชอบชั่วดี ก็จงเชื่อมั่นและวางใจในแผนการที่พระเจ้ามีไว้ให้เราเถิด
พระเจ้าทรงพอพระทัยความเมตตากรุณา
มิใช่พอใจเครื่องบูชา นั่นคือทรงต้องการจิตใจมนุษย์ที่เมตตากรุณา รัก
และรับใช้กันและกัน ดังพระวาจาที่ว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
และสิ่งนั้นที่แบ่งออกและมอบให้ผู้ต่ำต้อยเป็นกิจเมตตากรุณาที่พระเจ้าทรงพอพระทัยพระองค์ตรัสสรุปว่า
‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง
ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ (มธ 25:40)
Between ทุกสิ่ง.
คนที่ขอโทษก่อน
คือคนที่กล้าหาญที่สุด
คนที่ให้อภัยก่อน
คือคนที่เข้มแข็งที่สุด
คนที่ลืมได้ก่อน
คือคนที่มีความสุขที่สุด
หลายครั้งในการที่เราตัดสินใครสักคน
ไม่ได้มาจากความดีเลวของเขา แต่เกิดจากความสมหวัง หรือผิดหวังที่เราคิดคาดหวังจากเขามากกว่า และข้อผิดพลาดใหญ่ๆในชีวิตมักไหลมาจากการคิดว่า
ตัวเองคือความถูกต้อง ตัวเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง หลายคนจึงไม่รู้จักตัวเองทั้งชีวิต
เพราะมัวอุทิศเวลา ให้กับการทำความรู้จักข้อผิดพลาดของคนอื่น
ดังนั้นเขาทำตัวอย่างไรถือเป็นเรื่องธรรมดาของเขา แต่การที่เราสามารถทำหรือเปลี่ยนให้เขาดีขึ้นหรือเลวหนักกว่าเดิมได้ ถือเป็นกรรมที่ไม่ธรรมดาของเรา คิดเอาแล้วกัน ในชีวิตจริงอาจมีหลายคนที่กำลังเสียเวลาในการพยายามที่จะอธิบายความจริง แต่ด้วยว่านี่คือโลกที่เราอาศัยอยู่เป็นแบบนี้การพยายามอธิบายความจริงนั้นจึงยากกว่าการพูดเรื่องโกหกให้คนเชื่อเสียอีก และที่สำคัญคนฟังเขาเลือกสิ่งที่เขาอยากจะฟังไว้แล้ว
ตนเตือนตน
เตือนไปนานๆ เตือนไปจนกว่าจะดี ใครไม่ดีช่างเขา แต่เราจะต้อง ดีๆ ขึ้นไป
ไม่ทำตัวต่ำลง และบอกกับคนที่ให้กำลังใจเราว่า "ฉันไม่เป็นไร"
บอกกับคนที่ดูแคลนคุณว่า "กูมีความสุขดี" บอกกับคนที่ห่วงใยเราว่า
"ฉันขอบคุณ"
จงเรียนรู้ที่จะรับไว้
และเรียนรู้ที่จะละวาง เพราะไม่มีใครเคยหนีห่าง จากความไม่เที่ยง
แปรปรวนไป และมันจะสลายไปในที่สุด ในชีวิตเราจึงอาจพบเจอคนบางคนที่ผ่านเข้ามาเพื่อสอนคุณว่าอะไรคือคำว่าชิงชัง
อะไรคือความรักความเมตตา ดังนั้นชีวิตนี้จึงมีกำไรมากมายนักหากเรารู้จักมองเป็น
เราจะเห็นค่าจวบถึงวันดับสิ้นดวงวิญญาณ์ ก็ลับลามือเปล่าเหลือเท่าเดิม และเป็นเหมือนกันทุกคน. ไม่มีใครที่จะดีไปทุกส่วน หรือเลวไปทุกส่วน พระเจ้าจึงสอนให้เรามองหาและเชื่อในส่วนดีของกันและกัน
วันนี้ให้เรารักษาอารมณ์ของเราให้ดีและมีความสุข
วางการคาดหวัง การคาดการณ์ แล้วพักสมอง และลองเปิดหัวใจกว้างๆ มองให้เห็นสิ่งดี
เลิกจดจ่อสิ่งที่กวนใจ สถานการณ์ต่าง ๆ
อาจทำให้ท่านรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง
แต่ขอให้ท่านรู้ว่าพระเจ้าจะไม่ทอดทิ้งท่านเลย
ขอพระจิตเจ้าประทานความเชื่อ ความหวังและความรัก ให้ท่านอย่างบริบูรณ์ เพื่อชีวิตของท่านจะได้ร่ำรวยด้วยกิจการดีทุกประการ จนบรรลุถึงชีวิตนิรันดรเทอญ☺😊😀
วันนี้ youให้เวลากับพระเป็นเจ้าแล้วหรือยัง ?