วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2563

เมื่อคนอื่นประพฤติตนไม่น่ารัก




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 
วันที่ 221 - เมื่อคนอื่นประพฤติตนไม่น่ารัก
24อย่าผูกมิตรกับคนใจร้อน
อย่าคบหากับคนที่ฉุนเฉียวง่าย
25มิฉะนั้นเจ้าจะเอาอย่างเขา
แล้วพาตัวเองไปติดกับ
สุภาษิต 22:24-25

 บางครั้งเราต้องพบเจอกับผู้คนที่มีนิสัยหยาบคาย ถึงหยาบคายมาก เมื่อคุณต้องเผชิญกับคนเหล่านี้ในชีวิต คุณอาจถูกล่อลวงให้ตอบกลับความชั่วด้วยความชั่ว ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือในทางอื่น ก็จงอย่าทำมัน!  จงอย่าเอาอย่างเขา

การผูกมิตรกับคนขี้โมโหไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่น่าจะราบรื่นนัก แต่ความท้าทายคือทำอย่างไรพวกเราจะไม่กลายเป็นคนที่ขี้โมโหเสียเอง หากอารมณ์ฉุนเฉียวแพร่ระบาดได้ไม่ต่างจากโรค เป็นไปได้ไหมที่เราจะไม่ติดเชื้อทางอารมณ์ การมีภูมิคุ้มกันก่อนเนิ่นๆ อาจทำให้คุณสร้างมิตรภาพได้โดยไม่โดนไฟ(แห่งความขี้โมโห)ลวกมือเสียก่อน  ดังนั้นการที่เรียนรู้ว่า ‘คุณโกรธ ฉันก็โกรธ’ และยอมรับความโกรธซึ่งกันและกัน โดยอย่าให้มันผันตัวไปเป็นความรุนแรงเสียก่อน

เมื่อคนอื่นประพฤติตนไม่เหมาะสม หยาบคาย -พาล-หุนหันพลันแล่น -ฉุนเฉียว-ใจร้อนโกรธง่าย-ขี้โมโห-ขี้หงุดหงิด-ไร้เหตุผล คุณเองก็ไม่ต้องใจร้อนตามไปด้วย ให้คุณเลือกที่จะพูดจาสุภาพเท่าที่คุณจะทำได้ แล้วนำตัวเองออกมาให้ห่างไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นกระจกไปคอยส่งคนอื่น หรือเป็นไม้บรรทัดที่คอยไปวัดคนอื่น หรือทำตัวเป็นกระดาษทรายที่คอยไปขัดเกลาคนอื่นเพราะมันอาจทำให้เรื่องบานปลาย   แค่คุณพาตัวเองออกมาให้ไกลจากเขาเหล่านั้น แล้วปล่อยหน้าที่ของการพิพากษาเป็นของพระเจ้าไป จากนั้นให้คุณอภัยทุกคนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน 

การที่เราไม่สามารถให้อภัยคนอื่นเป็นรากฐานของความคิดเชิงลบ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความโกรธและโทษคนอื่น ทำให้เราเกิดความกลัวและแคลงใจ หรือเกิดความอิจฉาริษยา และยังนำไปสู่หนทางบาปอีกมากมาย สิ่งที่มีพลังที่สุดที่จะปลดปล่อยให้คุณเป็นอิสระ คือการให้อภัยทุกคนที่เคยทำให้คุณเจ็บปวดในทุกๆ เรื่อง เพียงคุณปลดปล่อยคนอื่นออกจากจิตใจโดยการให้อภัยเขา คุณจะปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากความทุกข์ นี่คือเหตุผลที่ทุกศาสนาให้ความสำคัญกับการให้อภัย และสอนว่าการให้อภัยเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่สันติสุขในใจและบนโลกมนุษย์

เพราะว่าพระเจ้าทรงอภัยบาปผิดทั้งหมดทั้งสิ้นของเราแล้ว เราไม่ควรจะผูกใจโกรธไม่ให้อภัยคนอื่น เมื่อใดที่เราไม่ให้อภัยคนอื่นก็เท่ากับว่า เรากำลังวางตัวเองอยู่นอกความรักของพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก จงใช้ความรักของพระเจ้าที่อยู่ในเราเป็นพลังแห่งความกล้าหาญและอภัยเขาเหล่านั้นเสีย  บางครั้งสำหรับคนบางคน เราก็ไม่สามารถยกหนี้ความผิดที่มากมายให้เขาได้เพราะมันเกินกำลังของมนุษย์อย่างเรา แต่อย่าลืมว่าความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่มากมายนัก จงใช้ความรักของพระเจ้านำทางเราและทำโดยไม่มีข้อแม้  ลูกา 17:4 แม้เขาจะผิดต่อท่านวันหนึ่งเจ็ดหน และจะกลับมาหาท่านทั้งเจ็ดหนนั้น แล้วว่า "ฉันกลับใจแล้ว" จงยกโทษให้เขาเถิด"  จงกล้าที่จะยกโทษให้กับคนที่กลับใจและกล่าวคำขอโทษ แม้เขาจะไม่กล่าวคำขอโทษเราเองก็ต้องยกหนี้ยกโทษให้กับเขา

ข้อคิด
หากคุณไม่สามารถทำใจที่จะให้อภัยคนที่ทำร้ายคุณ ก็เท่ากับคุณทำร้ายตัวเองมากกว่าทำร้ายคนอื่น เพราะคุณเองคือคนที่ย้ำคิดจดจำและเก็บความขมขื่นนั้นไว้กับตนเอง ส่วนคนที่เขาทำร้ายคุณก็อาจจะหลงลืม และไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปแล้ว จงจำไว้ว่า: พลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราเป็นสุขใจและทำให้เราเอาชนะตนเองได้พลังนั้นคือ "พลังแห่งการให้อภัย"

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
เฟสบุคโมเสสในพระคริสต์


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...