ความถ่อมสุภาพคือการยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน 

วัน 214 - ฝึกสร้างตัวเองให้เป็นคนถ่อมสุภาพ

ความถ่อมสุภาพคือการยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

รางวัลของมันคือ ความมั่งคั่ง เกียรติ และชีวิต

สุภาษิต 22: 4

ความถ่อมสุภาพ เป็นลักษณะข้อแรกที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับพระองค์เอง พระองค์ตรัสว่า . . .บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายหายเหนื่อยเป็นสุข แล้วเรียนจากเรา เพราะเราสุภาพและใจอ่อนน้อม ( อ่อนโยน ถ่อมตน ไม่หยาบคาย ไม่โหดร้าย

ไม่กดขี่ ไม่กดดัน) มัทธิว11 :28 -29 .

คนที่มีความถ่อมใจจะระวัง วาจาและการกระทำเพื่อจะได้ไม่ไปทำให้คนอื่นเจ็บเขาจะไม่หยาบคาย ดื้อรั้น ก้าวร้าว และกดดันใครๆ เขาจะถ่อมใจ สุภาพ ว่าง่าย ถ่อมตัว และสร้างสันติเสมอ .เขาจะยอมไปไกลกว่าเดิมเพื่อสร้างสันติกับคนอื่น ไม่ว่าเรื่องนั้นเป็นความผิดของใครก็ตาม

คนที่มีความถ่อมใจจะระวังว่าจะปฏิบัติกับคนอื่นอย่างไรเขาจะอดทนกับบางอย่าง เพราะเขารู้ดีว่าในตัวเขาก็มีอะไรบางอย่างที่คนอื่นต้องอดทนเหมือนกัน (นิสัยที่ไม่น่ารัก-ความบกพร่องของแต่ละคน).

สิ่งที่เราทุกคนสามารถทำและเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้โดยยึดเอาหลักของการเป็นคนสุภาพถ่อมตนมาใช้ให้เกิดผลในชีวิตได้ด้วยการ เลิกนิสัยพูดจาให้ร้ายใส่ความคนอื่น พวกเราต้องไม่โฟกัสเรื่องการแสดงตัวให้ดูสุภาพถ่อมตน แต่เราต้องทำตัวให้สุภาพถ่อมตนและเดินอยู่ในการประทับอยู่ของพระเจ้า การเป็นคนสุภาพถ่อมตนคือจงเลิกนิสัยพูดจาให้ร้ายใส่ความคนอื่น แต่จงสนใจแต่การรับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยใจจริงแต่จงรับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยใจจริง  พระเจ้าทรงพอพระทัยผู้ที่สุภาพถ่อมตน แต่ต้องเป็นความสุภาพถ่อมตนที่เกิดจากใจ ไม่ใช่แกล้งทำตัวว่าสุภาพเพื่อหวังผลบางอย่าง  ความสุภาพถ่อมตนที่แท้จริงคือการดำเนินชีวิตด้วยการนบนอบเชื่อฟังพระเจ้า นอกจากนี้ ยังหมายถึงการยำเกรงพระเจ้า แต่ไม่ใช่ยำเกรงเพราะกลัวว่าพระเจ้าจะลงโทษเรา

ข้อคิด

ความนอบน้อมนำไปสู่ความสุข แต่ความภาคภูมิใจในตนเองแบบที่หลงตนเอง ยกตนข่มท่านไม่ได้นำมาซึ่งความสุข พระเยซูทรงกล่าวถึงคนต่ำต้อยและทำตัวสุภาพถ่อมตน พระองค์ทรงพอพระทัยต่อความดีของการเป็นคนสุภาพถ่อมตน แต่การเป็นคนสุภาพถ่อมตนนี้ ต้องไม่เป็นแนวทฤษฎีเพื่อทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง เราต้องดำเนินชีวิตด้วยความสุภาพถ่อมตน และมีคุณธรรมเหมือนเด็กๆและต้องมีความยำเกรงพระเจ้า

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก

เฟสบุค Giver Club

 popereport.com