อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน
วันที่ 225 - การเชื่อฟังและทำตามทันทีโดยไม่มีข้อแม้
3ถ้าเราเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์ เราก็รู้แน่ว่าเรารู้จักพระองค์
4ผู้ที่พูดว่า “เรารู้จักพระองค์” แต่ไม่ทำตามสิ่งที่ทรงบัญชา
ผู้นั้นก็โกหกและความจริงไม่ได้อยู่ในเขาเลย
1 ยอห์น 2: 3-4
เพื่อที่จะเพลิดเพลินกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับพระเจ้าคุณต้องพยายามอย่างขยันขันแข็งเพื่อดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติของพระองค์
แต่มีปัญหาอยู่ว่า - คุณอาศัยอยู่ในโลกที่มีกับดักมากมายพยายามดักความสนใจของคุณและพาคุณออกห่างไปจากพระเจ้า
เพราะคุณเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์คุณจึงไม่สามารถเชื่อฟังได้อย่างสมบูรณ์แบบและพระเจ้าไม่ทรงคาดหวังให้คุณเป็น
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นกว่านั้นก็คือความปรารถนาอย่างจริงใจที่จะเชื่อฟังควบคู่ไปกับการตระหนักถึงความบาปและความเต็มใจที่จะทำให้ตัวเองออกห่างจากบาปทันทีที่คุณพบมัน
การเชื่อฟังหมายความว่าอย่างไร? คือ
ท่าทีและความประพฤติที่แสดงออกว่าตามใจอีกบุคคลหนึ่ง นั่นหมายความว่า
คริสเตียนต้องมีท่าทียอมจำนนต่อพระเจ้าด้วยความเต็มใจ
และแสดงออกมาเป็นพฤติกรรมเพื่อสอดคล้องกับการสั่งสอนของพระองค์ในพระคัมภีร์ การเชื่อฟังพระเจ้านำพระพรและชัยชนะมาสู่ชีวิตของคริสเตียน
ถ้ามีแต่ความเชื่อแต่ปราศจากการเชื่อฟังก็ไม่มีประโยชน์อะไร
แม้แต่มารก็เชื่อพระเจ้าและกลัวจนตัวสั่น (ยก.2.19)
คุณเต็มใจที่จะปฏิบัติตามบทพระบัญญัติของพระเจ้าหรือไม่? หวังว่าคุณสามารถตอบคำถามนั้นด้วยคำว่าใช่และดังก้องกังวาลอย่างไม่ลังเล
มิฉะนั้นคุณจะไม่ได้สัมผัสกับพรที่พระผู้สร้างจะมอบให้กับคนที่เชื่อฟังพระองค์อย่างเต็มที่
“การเชื่อฟัง” เป็นพื้นฐานในชีวิตของเราที่สำคัญอย่างยิ่ง
เพราะเราเห็นตัวอย่างการไม่เชื่อฟังครั้งแรกในโลกของมนุษย์คู่แรก
จึงทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของซาตานและความบาป (ปฐก.3)
และเห็นถึงตัวอย่างอิทธิพลของการเชื่อฟังของพระเยซูคริสต์ที่ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา
(ฟป.2:8) ซึ่งเป็นเหตุให้คนทั่วโลกได้รับพระพรดังนั้น “การเชื่อฟัง”
จึงเป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุด
ข้อคิด
โดยความตายของพระเยซูบนไม้กางเขน พระองค์ทรงแบกและชำระความบาปของเราด้วยพระโลหิตของพระองค์ครั้งเดียวเป็นพอ!
พระองค์จ่ายราคาสูงสุดสำหรับความบาปซึ่งมนุษย์ได้ทำให้เกิดขึ้น พระองค์ได้จ่ายให้คุณอย่างมากมาย
แล้วคุณละคุณเต็มใจจ่ายให้ราคาเท่าไหร่?
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
abodahblessings.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น