วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2563

“ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?”

 


อิสรภาพจากความสงสารตัวเอง

5ที่นั่นมีชายคนหนึ่งป่วยมาสามสิบแปดปีแล้ว 6เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นคนนั้นนอนอยู่ และทรงทราบว่าเขาป่วยอยู่อย่างนั้นนานแล้ว พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?”

ยอห์น 5: 5-6

 หลายๆครั้งที่เรายินยอมให้ความขมขื่นเพราะอะไรบางอย่าง หรือกับใครบางคนเข้ามาครอบงำความคิดของเรา แล้วเราก็กักขังตัวเองไว้ในความสงสารตัวเอง และเฝ้าถามหาความยุติธรรมว่าอยู่ที่ไหน?

 จงเลิกยึดติดกับอดีตที่เจ็บปวด หันมายกย่องสรรเสริญพระเจ้าแทนดีกว่า?! รู้ไหม...คนที่เอาแต่ไปพรรณาถึงบาดแผลในอดีตที่เกิดเพราะบางสิ่งหรือกับใครบางคนไม่หยุดนั้น เขาเป็นคนที่น่าสงสารจริงๆ เพราะเขาชอบที่จะเป็น "นักโทษ" มากกว่าที่จะเป็น "อิสระ" จริงๆ  การพูดไป บ่นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ ... มีแต่จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ และที่สำคัญคำพูดของเราในวันนี้ ไม่นานก็จะวนกลับมาทำร้ายเราเองเข้าสักวันแน่ๆ ... จงเข้ามายกย่องและสรรเสริญพระเจ้าดีกว่า อย่าลืมสิ ... เราเป็นลูกใคร?! เราเป็นลูกของพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ เรามีสิทธิอำนาจยิ่งใหญ่กว่าฤทธานุภาพของศัตรู [มาร] ไม่มีอะไรจะมาทำอันตรายพวกเราได้เลย

 เมื่อพระเยซูได้พบกับชายผู้ซึ่งนอนอยู่ริมสระน้ำแห่งเบเธสดาเป็นเวลาสามสิบแปดปีเพื่อรอปาฏิหาริย์ พระองค์ถามว่าเขาอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?  เราหลายคนต้องการปาฏิหาริย์ เช่นเดียวกับชายในเรื่องนี้  เขานอนจมอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง เช่นกันในชีวิตของเรา พระเยซูทรงรู้และเข้าใจสถานการณ์ในชีวิตของเรา ทรงรู้ว่าเราปล้ำสู้กับปัญหานี้มานานแค่ไหน ทรงรู้ว่าเราทนทุกข์กับสภาพที่เป็นอยู่นี้เพียงใด คุณพร้อมที่จะละทิ้งชีวิตแบบเดิม ๆ และดำเนินชีวิตในระดับชีวิตใหม่ที่พระเจ้าทรงประทานให้หรือยัง?

 หลายครั้งพระเยซูไม่ใช่แค่ทำการอัศจรรย์เท่านั้น แต่พระองค์ทรงมีพระประสงค์ของการทำการอัศจรรย์นั้นด้วย เช่นเดียวกัน ถ้าหากเราต้องการการอัศจรรย์ เรารู้ถึงบทเรียนที่พระองค์ทรงต้องการจะสอนเราหรือไม่? เรารู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์สำหรับการอัศจรรย์หรือไม่?

 พระเยซูทรงถามชายคนนี้ว่า “ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?”  นั่นคือ ไม่ใช่แค่การรักษาแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่พระเยซูต้องการรักษาชายคนนี้ทั้งหมด ไม่ใช่แค่บางส่วน พระองค์ต้องการรักษาชายคนนี้ทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายจิตวิญญาณ จะเป็นประโยชน์อะไรหากเราได้รับการรักษาแต่เพียงภายนอก แต่ภายในยังเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง เต็มไปด้วยความบาป ซึ่งสุดท้ายความเละเทะภายในก็จะสะท้อนออกมาเป็นความเจ็บป่วยภายนอกเหมือนเดิม พระเยซูต้องการรักษาชายคนนี้ทั้งฝ่ายร่างกายและจิตวิญญาณ

เช่นเดียวกันกับชีวิตของเรา เมื่อเราปรารถนาเห็นการอัศจรรย์ ปรารถนาให้พระเจ้าทรงรักษาเราทั้งภายในและภายนอก เราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราหรือไม่?   เราอยากให้พระเยซูทรงรักษาเรา แล้วเราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเราหรือยัง? เราพร้อมที่จะละทิ้งทัศนคติเชิงลบหรือเปล่า? เราพร้อมออกจากกความเจ็บปวด ความขมขื่น ความผิดพลาดในอดีตหรือเปล่า? เราพร้อมที่จะยอมรับและให้อภัยตัวเองหรือไม่? เราพร้อมและเต็มใจที่จะเดินไปกับพระเยซูหรือยัง?เราจะตอบคำถามนี้กับพระเยซูอย่างไร?

 ข้อคิด

 วันนี้...เราจะยินยอมให้ความเจ็บปวด ความขมขื่นในอดีต การไม่ยอมให้อภัยอยู่ในเราต่อไป หรือเราจะสั่งมันว่า จงไปเสียให้พ้นเจ้าความเจ็บปวด เจ้าความขมขื่น และการไม่ให้อภัย. เมื่อเราได้พบพระคริสต์แล้วสิ่งสารพัดที่เก่าๆจะหลุดร่วงไป นี่แน่ะจะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งสิ้น (2คร.5:17)

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก

 www.siamchristian.com

เฟสบุคพระวจนะที่มีชีวิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...