วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

มาร์ธากับมารีย์ชาวมักดาลา

 


เพลิดเพลินกับการเดินทางของชีวิต

แต่มารธาวุ่นวายอย่างมากกับการปรนนิบัติ จึงมาทูลพระองค์ว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวของข้าพระองค์ปล่อยให้ข้าพระองค์ปรนนิบัติอยู่คนเดียว? ขอพระองค์สั่งน้องให้มาช่วยข้าพระองค์ด้วย”

ลูกา 10:40

 ชีวิตควรเป็นการเฉลิมฉลอง และมีความสุข มีผู้เชื่ออีกมากหลายคนที่ไม่ได้สนุกกับชีวิตสักเท่าไหร่ หลายคนรักพระเยซูคริสต์อย่างแท้จริงและกำลังเดินทางไปสวรรค์ แต่มีเพียงไม่กี่คนที่มีความสุขกับการเดินในเส้นทางนั้นอย่างแท้จริง แล้วคุณละเป็นเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นหรือเปล่า?

 มาร์ธา >> ก็ตั้งใจอยากจะทำสิ่งที่ “ดีที่สุด” เพื่อมอบให้กับพระเยซู ส่วนมารีย์ >> ก็วางทุกสิ่งที่เธอทำลง และมานั่งอยู่ใกล้ๆ กับพระเยซู  

โลกแบบมาร์ธาหน้าตาเป็นยังไงเหรอ? โลกแบบมาร์ธามีหน้าตาแบบที่เราทั้งหลายต่างคุ้นเคยดี  มันเป็นโลกที่ต้องคอยทำโน่นนี่ เต็มไปด้วยภาระ หน้าที่ พร้อมด้วยความรับผิดชอบ มากมายที่เรียกร้องให้เราต้องจัดการดูแลในแต่ละวัน สิ่งโน้นนี่ที่ต้องทำบ้างก็มาจากภายนอก และบ้างก็มาจากตัวเราเอง

มาร์ธายุ่งอยู่กับการทำหน้าที่ภายนอกซึ่งคุณเองก็อาจเคยทำนั่นคือการวิ่งไปมาเพื่อพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อสร้างความประทับใจให้พระเจ้าและคนอื่น ๆเพราะคุณคิดว่านี่คือแนวทางที่ถูกต้องตามกฎเพื่อความชอบธรรม  คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองเมื่อคุณได้ทำบางอย่างสำเร็จ และคุณเริ่มจะไม่พอใจคนอย่างแมรี่(เพื่อนร่วมงานหรือคนรอบกายคุณ)  คุณคิดว่าพวกเขาควรจะทำงานหนักเหมือนที่คุณกำลังทำงาน

 คุณกำลังมีปัญหาเหมือนอย่างมาร์ธาหรือไม่? คุณบอกว่าคุณรักพระเยซู แต่คุณไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตเรียบง่ายที่พระองค์ต้องการให้คุณมี  คำตอบในเรื่องนี้ที่เราค้นพบได้ก็คือความหมายของการนั่งลงข้างๆที่พระบาทของพระเยซูแล้วตั้งใจฟังคำพูดของพระองค์และวางใจพระเจ้าด้วยสุดใจและวิญญาณของเรา

 ไม่ง่ายนะ ที่จะใช้ชีวิตแบบมารีย์ได้ ในโลกของมาร์ธา การวางทุกสิ่งที่ต้องทำลงก่อนแล้วหันมาใช้เวลากับพระเยซู กลับเป็นสิ่งที่ท้าทายใจ เมื่อต้องทำหลายๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้เสร็จในเวลาอันจำกัด หรือมีหลายๆ สิ่งทีเราตั้งใจอยากทำ ทำให้หลายครั้ง เสียงของตัวเราเองที่บอกว่า “เดี๋ยวก่อน… พระองค์รอได้” ดังกว่าเสียงของพระองค์ที่บอกว่า “มาเถิด…เรารออยู่ 

จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมยิ่งคุณทำๆ ไป ยิ่งดูเหมือนจะเหนื่อยง่ายๆ ท้อใจบ่อยๆ หรือถึงขั้นหมดแรงจะไปต่อ ถ้าเราไม่เข้าไปอยู่ใกล้พระเจ้าและรับกำลังใหม่จากพระองค์ เราจะเอากำลังในการทำสิ่งต่างๆมาจากไหนกันเหรอ!! ลำพังกำลังจากตัวเราเองคงไม่พอ เพราะใช้ๆ ไปเดี๋ยวก็หมด มีทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เราวิ่งระยะไกลในชีวิต ไปบนเส้นทางที่ถูกได้ นั่นก็คือการ “รับกำลังใหม่จากพระเจ้าทุกๆ วัน” ด้วยการวางทุกสิ่งลงก่อน แล้วไปใช้เวลาอยู่ใกล้ๆ พระองค์ เหมือนที่มารีย์ทำนั่นไง!!

ในเรื่องนี้มิได้หมายความว่าพระองค์ทรงตัดสินว่ามารีย์เป็นฝ่ายถูก เพียงต้องการบอกว่ามารีย์รู้และเข้าใจเป้าหมายแท้จริงของชีวิต ซึ่งต้องหลอมรวมกิจกรรมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ทั้งงานหน้าที่ภายนอกและการปฏิบัติศาสนกิจ

ข้อคิด

หากคุณต้องการมีความสุขกับชีวิตจงเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างสมดุล ทำงาน-นมัสการ-เล่น-สนุกสนานกับชีวิตและพักผ่อน หากคุณยกให้หน้าที่ภายนอกเป็นเรื่องสำคัญที่สุดคุณอาจกำลังทำให้ตัวเองเป็นคนที่มีชีวิตที่ซับซ้อนและไม่มีความสุข  ในเหตุการณ์ครั้งนี้ระหว่างมาธาร์และมารีย์ ภาษารักของพระเยซู คือ “การใช้เวลา” เพราะสิ่งที่พระเยซูเห็นว่าดีคือการใช้เวลาอยู่กับพระองค์

“สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว” นั่นคือการอยู่กับพระเยซูเจ้า ศิษย์พระคริสต์ต้องลำดับความสำคัญก่อนหลัง พระเจ้าต้องมาก่อนและสำคัญที่สุดในชีวิต สร้างบรรยากาศแห่งการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าท่ามกลางเรา ในความรักต่อกันและทัศนคติเชิงบวกที่มองเห็นพระเยซูเจ้าในผู้อื่น

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก

คุณ JOYCE MEYER

medium.com @Wor_Santa

 dondaniele.blogspot.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...