วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สุภาษิต 12:1

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สุภาษิต 12:1

 

ผู้ที่รักคำสั่งสอนก็รักความรู้

ส่วนผู้ที่เกลียดชังคำตักเตือนก็โง่เขลา – สุภาษิต 12:1

 

ถ้าอยากเก่งอะไรสักอย่าง เราก็ต้องมีวินัย ถ้าคุณอยากเล่นเครื่องดนตรีให้เก่งคุณก็ต้องหมั่นฝึกซ้อม ถ้าคุณเล่นกีฬาคุณต้องขยันซ้อมและทานอาหารให้ถูกต้องเพื่อที่จะได้แข็งแรงและเล่นได้ดีขึ้น หากต้องการเติบโตในด้านใดก็ตามในชีวิต คุณต้องมีวินัยในตัวเองก่อน

 

หากคุณต้องการเป็นคนที่มีอุปนิสัย( คือบุคลิกของคุณเป็นความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นมาในสันดาน) คุณต้องรักระเบียบวินัย วินัยจึงไม่ใช่เรื่องง่ายและมันไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน ระเบียบวินัยเป็นงานที่หนัก แต่ถ้าคุณต้องการเรียนรู้ เติบโต และเป็นคนที่ดีขึ้น คุณต้องเรียนรู้ที่จะรักวินัย

 

นั่นคือสิ่งที่ข้อพระคำในวันนี้สนับสนุนให้เราทำ เพื่อจะเก่งขึ้นในทุกสิ่ง เราต้องยอมรับการแก้ไขและรักการมีวินัย เพราะเมื่อเราทำได้เราจะเรียนรู้และเติบโตขึ้น

 

มันเป็นตัวเลือกเล็กๆ น้อยๆ ที่เมื่อคุณทำแล้วมันจะทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่นๆ ดังนั้นจงตัดสินใจว่าคุณจะต้องมีวินัยในตัวเองเพื่อเลือกสิ่งที่ดี เพราะมันคือทางเลือกที่กำหนดว่าชีวิตคุณจะจบลงที่จุดใด

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว – ยอห์น 16:13

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว – ยอห์น 16:13

 

แต่เมื่อพระวิญญาณแห่งความจริงเสด็จมาพระองค์จะทรงนำพวกท่านไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์จะไม่ตรัสโดยลำพังพระองค์เองแต่จะตรัสเฉพาะสิ่งที่ทรงได้ยินและจะทรงแจ้งแก่พวกท่านถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น  – ยอห์น 16:13  

 

มีคำถามมากมายในโลกทุกวันนี้ คุณอาจสงสัยว่าจะทำอย่างไรในอนาคต อาจเป็นได้ว่าความกลัวเรื่องสุขภาพหรือความปลอดภัยของคุณกำลังครอบงำจิตใจคุณ และคุณสงสัยว่าต้องทำอย่างไรต่อไป

 

ความจริงก็คือในโลกที่เราอาศัยอยู่ในทุกวันนี้ เราต้องการพระเจ้า เราต้องการสติปัญญาของพระองค์ เราต้องการคำตอบของพระองค์

 

พระเจ้าทรงมีสติปัญญาและคำตอบทั้งหมด ดังนั้นแทนที่คุณจะปรึกษา Google เกี่ยวกับปัญหาของคุณ ลองถามพระเจ้าแทน พระเจ้าต้องการนำคุณไปสู่ความจริงทั้งมวล พระองค์ต้องการแสดงให้คุณเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น

 

ความจริงวันนี้: เราต้องการคำตอบจากพระเจ้า

 

ชีวิตจะง่ายขึ้นเมื่อคุณไปหาพระเจ้าเพื่อขอคำตอบ เมื่อคุณไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปหรือจะดำเนินต่อไปอย่างไร จงไปหาพระเจ้า พระองค์ต้องการนำคุณและให้คำตอบแก่คุณทั้งในเรื่องใหญ่และเล็ก ดังนั้นอย่ากลัวที่จะทูลถามพระองค์!

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – มัทธิว 6:33

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – มัทธิว 6:33

 

แต่จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน และพระองค์จะประทานสิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่านด้วย – มัทธิว 6:33  

 

คุณใช้ชีวิตแบบไหน? คุณให้อะไรเป็นศูนย์กลางของชีวิตคุณ? คุณปล่อยให้มันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเห็นจากสื่อ?  หรือขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนรอบข้างคุณคิด?  แม้ว่าบางครั้งแหล่งข้อมูลเหล่านั้นอาจมีประโยชน์บ้าง แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว แหล่งข้อมูลเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญแท้จริงสำหรับคุณในฐานะคริสตชน วันนี้เรามาค้นหาคำตอบไปพร้อมๆกัน

 

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณพยายามใช้ชีวิตโดยมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง?

สิ่งต่างๆ จะดูแตกต่างออกไปไหมหากคุณทุ่มเทและเพิ่มพลังขึ้นอีกนิดในการทำให้ชีวิตมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางมากขึ้น แล้วมันจะเป็นอย่างไรหากคุณใช้เงินทั้งหมดไปกับรองเท้า เสื้อผ้า โทรศัพท์ และสิ่งสนุกๆ เพื่อตัวคุณเองเท่านั้น  วันนี้ให้คุณตัดสินใจถามพระเจ้าว่าในชีวิตของคุณมีคนที่คุณสามารถจะมอบหรือแบ่งปันบางสิ่งบางอย่างให้กับเขาบ้างได้ไหม? บางทีคุณอาจซื้อขนมให้เพื่อนๆ - บริจาคสิ่งของหรือเงินจำนวนเล็กน้อยให้กับชุมชนในเขตวัดของคุณ  ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไรหากคุณดำเนินชีวิตโดยมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง?

 

จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม ถ้าการดำเนินชีวิตเพื่อพระคริสต์คือเป้าหมายของคุณ?

นี่คือความจริง: ในฐานะผู้ติดตามพระคริสต์ คุณควรทำให้การมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์เป็นเป้าหมายของคุณ   คุณควรแสวงหาพระคริสต์และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน  มันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป บางครั้งมันก็ดูท้าทายมากจริงๆ แต่มันก็เป็นการปลดปล่อยคุณจากเรื่องเงินทอง มิตรภาพ และตัวตนเก่าของคุณเช่นกัน เมื่อคุณเริ่มแสวงหาพระองค์อย่างลึกซึ้งในทุกสิ่งที่คุณทำ คุณจะพบว่าความรักที่คุณมีต่อพระองค์เพิ่มมากขึ้น

 

วันนี้ ท้าทายตัวเองให้ดำเนินชีวิตในลักษณะที่ทำให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางในทุกสิ่งที่คุณทำ

 

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สดุดี 34:8

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สดุดี 34:8

 

เชิญชิมดูแล้วจะรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี

ความสุขมีแก่ผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์ – สดุดี 34:8  

 

สิ่งที่ดีที่สุดประการหนึ่งเกี่ยวกับการถูกสร้างขึ้นตามพระฉายาของพระเจ้าคือเราสามารถรู้จักพระองค์ได้ เราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ในการรู้จักพระองค์ นั่นหมายความว่าในทุกๆ วันที่เราประสบปัญหา เราสามารถพูดคุยกับพระเจ้าได้ เราสามารถลิ้มรสและเห็นว่าพระองค์ทรงดีจริงๆ

 

พระองค์ดีเมื่อเรารู้สึกดี พระองค์ดีเมื่อเรารู้สึกแย่ พระเจ้าทรงดีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเรา และพระองค์ทรงดีในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด การรู้ว่าพระเจ้าทรงดีเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของเรากับพระองค์ ใช่อยู่ มันอาจมีช่วงเวลาที่คุณสงสัยในความดีของพระองค์ คุณอาจสงสัยว่า 'พระเจ้าอยู่ที่ไหน'? หรือพระองค์สนใจฉันอยู่รึป่าว?.. ในช่วงเวลาเหล่านั้นคุณต้องเตือนตัวเองว่าพระองค์ทรงห่วงใยและพระองค์ทรงแสนดี

 

คุณต้องตระหนักด้วยว่าความดีของพระองค์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความดีของคุณ แม้ว่าคุณจะทำผิดพลาด พระเจ้าทรงดีและพระองค์ทรงรักคุณ

 

ความจริงวันนี้: พระเจ้าทรงแสนดี

 

บางครั้งก็เป็นเรื่องยาก ที่เราจะตระหนักได้ว่าพระเจ้าทรงดี แต่ความจริงก็คือพระองค์ทรงแสนดีจริงๆ

 

ดังนั้นวันนี้ ท้าทายตัวเองให้ลิ้มรสและเห็นว่าพระเจ้าทรงแสนดี ลองความดีของพระองค์ดู ยิ่งคุณทดสอบมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งตระหนักว่าพระเจ้าทรงดีและพระองค์ทรงคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของคุณจริงๆ

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สดุดี 112:1

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – สดุดี 112:1

 

ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันชอบมาก ทุกครั้งที่เราออกไปเที่ยวกัน ฉันรู้สึกมีพลัง มีบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ซึ่งมันทำให้ฉันสนุกกับเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน แล้วคุณล่ะ คุณมีเพื่อนที่คุณรู้สึกเชื่อมต่อด้วยได้จริงๆ แบบนี้บ้างหรือไม่?

 

เราทุกคนต่างต้องเคยมีมิตรภาพเช่นนั้นมาบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถพบความชื่นชมยินดีจริงๆ ในความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าได้เช่นกัน ให้เรามาอ่านข้อพระคัมภีร์ของวันนี้ไปพร้อมๆกัน

 

จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า

ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ที่ปีติยินดีในพระบัญชาของพระองค์  – สดุดี 112:1  


หลังจากอ่านพระคำข้อนี้แล้ว คุณอาจคิดว่าคุณต้องกลัวพระเจ้าใช่หรือเปล่า  ซึ่งนั่นไม่ใช่ความหมายของพระคำข้อนี้เลย แต่มันกำลังบอกเราว่าเมื่อเราพูดคุยกับพระเจ้า เราจะได้รับพร นี่คือเหตุผล: เราได้รับพรเพราะเราได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีใช้ชีวิตให้ดีที่สุด  ดังนั้นความสัมพันธ์กับพระเจ้าจะทำให้เราสมหวังได้อย่างที่ไม่มีอะไรสามารถทำให้เราได้  ในโลกนี้จะไม่มีความสมหวังที่แท้จริงในชีวิตหากเราไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า

 

ดังนั้นวันนี้ อย่าลืมพัฒนาความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้าเพราะคุณต้องการให้พระเจ้าอวยพรคุณ จงพัฒนาความสัมพันธ์กับพระองค์เพราะคุณรักพระองค์ และตระหนักดีว่าในการรักพระองค์  การได้ทำความรู้จักกับพระองค์ จะทำให้คุณได้รับพรอย่างแท้จริง

 

ท้าทายตัวเองโดยใช้เวลาพูดคุยกับพระเจ้าในวันนี้ อย่าปล่อยให้ชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายทำให้คุณไม่สามารถมีเวลาให้กับพระองค์ ฝึกทำให้การรู้จักกับพระองค์เป็นเรื่องสำคัญในชีวิตประจำวัน แล้วค้นพบกับความสุขในการอ่านพระคัมภีร์ ชื่นชมยินดีในการค้นคว้าพระคัมภีร์ แล้วเรียนรู้ว่าพระคัมภีร์หมายถึงอะไรและเหตุใดจึงต้องมีการเขียนพระคัมภีร์ขึ้นมา

 

ความจริงวันนี้: คุณได้รับพรเพราะความสัมพันธ์ของคุณกับพระเจ้า

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – เอเฟซัส 4:24

 


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการเฝ้าเดี่ยว-วัยเรียน – เอเฟซัส 4:24

 

ในเมืองที่ฉันอาศัยอยู่ เรามีร้านค้าเล็กๆ ที่คุณสามารถนำกระป๋องและขวดเก่าๆ ของคุณไปรีไซเคิลได้ สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับร้านนี้คือคุณสามารถนำขวด กระป๋อง ที่ทั้งเปียก และอาจจะมีกลิ่นเหม็นมาให้พวกเขาได้ด้วย แล้วพวกเขาจะให้เงินคุณเพื่อแลกกับกระป๋องเก่าที่สกปรกเหล่านั้นของคุณ

 

นั่นทำให้ฉันนึกถึงพระคำของวันนี้มาก

 

และเพื่อสวมตัวตนใหม่ซึ่งพระเจ้าทรงสร้างขึ้นให้เป็นเหมือนพระองค์ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง – เอเฟซัส 4:24  

 

กระป๋องในร้านจะได้รับการแลก แล้วนำมารีไซเคิลแล้วเปลี่ยนจากขยะสกปรกที่ไร้ค่าให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้มค่า มีราคามากขึ้น

 

เช่นเดียวกับเรา ในพระคริสต์ เราได้สวมตัวตนใหม่ นิสัยที่ไม่ดีและความเสื่อมทรามของบาปจะไม่สามารถมากำหนดชีวิตของเราอีกต่อไป เพราะเราได้รับการสร้างใหม่ในพระคริสต์ แทนที่เราจะดำเนินชีวิตในบาป เรากลับถูกเปลี่ยนให้เป็นเหมือนพระฉายาของพระเจ้า ในความชอบธรรมและความบริสุทธิ์ที่แท้จริง และการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นไปไม่ได้หากไม่มีพระคริสต์

 

นี่เป็นข่าวดี ตอนนี้คุณอาจรู้สึกไร้ค่า เหมือนว่าคุณเป็นเพียงกระป๋องเก่าสกปรกไร้ค่า  แต่สำหรับพระเยซู คุณไม่ใช่ขยะเปียกไร้ค่า   คุณเป็นสมบัติล้ำค่า ความท้าทายของคุณคือการดำเนินชีวิตเหมือนเป็นคนใหม่ แทนที่จะรู้สึกแย่กับตัวเอง คุณสามารถเดินอย่างเชิดหน้าได้ คุณสามารถรู้ได้ว่าพระเจ้าทรงมีสิ่งดี ๆ เตรียมไว้ให้สำหรับคุณ และชีวิตของคุณก็มีเป้าหมายและคุณก็มีคุณค่าในพระองค์

 

ความจริงวันนี้: ชีวิตของคุณมีเป้าหมายและมีคุณค่าในพระคริสต์

 

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันเหล่านี้เต็มไปด้วยเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เมื่อวัยรุ่นอ่านพวกเขาจะเติบโตในการดำเนินกับพระเจ้า รวมถึงการให้ข้อคิดทางวิญญาณซึ่งจะช่วยให้วัยรุ่นรู้จักความรักของพระเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 n6v.61c.myftpupload.com

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ถึงเวลาที่จะปล่อยวาง

 


ถึงเวลาที่จะปล่อยวาง

18ตรัสว่า “จงลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้ว

อย่าฝังใจกับอดีต

19ดูเถิด เรากำลังทำสิ่งใหม่!

มันเริ่มขึ้นแล้ว เจ้าไม่เห็นหรอกหรือ?

เรากำลังสร้างทางในถิ่นกันดาร

และสายธารต่างๆ ในที่แห้งแล้ง

— อิสยาห์ 43:18–19

 

 

เมื่อคุณอยู่บนเส้นทางแห่งการเยียวยาจิตวิญญาณ ถึงเวลาที่คุณต้องทำการตัดสินใจที่สำคัญบางอย่างเพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างมีสุขภาพดี ที่จริงแล้ว การตัดสินใจเหล่านั้นเป็นวิธีที่รับประกันได้ว่าคุณจะมีความก้าวหน้า หนึ่งในนั้นคือการดำเนินชีวิตตามพระคำของพระเจ้าในทุกสถานการณ์ หนึ่งคือการให้อภัยผู้ที่ทำร้ายคุณ และอีกประการหนึ่งคือการปล่อยวางอดีตและกล้าที่จะเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีอนาคตที่ดีรอคุณอยู่

 

ผู้คนพยายามยึดติดกับอดีตในรูปแบบต่างๆ กัน แต่เราต้องจำไว้ว่าอดีตคืออดีต และไม่มีการยึดติดกับอดีตใดๆแล้วเราจะสามารถกลับไปเปลี่ยนแปลงมันได้ เราควรมีความสุขกับแต่ละวันที่เรามีอยู่ตอนนี้ และเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้หากเรายังจมอยู่กับอดีต จงสนุกกับวันนี้ในขณะที่รอคอยอนาคตที่ดี จงคาดหวังว่าจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับคุณ!

 

มีเหตุผลทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจทุกประเภทที่ทำให้ผู้คนไม่ยอมละทิ้งอดีต บางครั้งพวกเขารู้สึกว่าอดีตนั้นแสนวิเศษ และพวกเขาไม่เห็นว่าสิ่งอื่นใดจะดีได้ขนาดนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงใช้ชีวิตอยู่กับอดีตแทนที่จะมีความสุขกับปัจจุบันและรู้สึกมีความหวังเกี่ยวกับอนาคต บางครั้งพวกเขาไม่สามารถทำสิ่งที่เคยทำได้อีกต่อไป และแทนที่จะตระหนักถึงคุณค่าของตนเองในปัจจุบัน พวกเขากลับหันไปพึ่งความสำเร็จจากปีก่อนๆ

 

ตัวอย่างเช่น ลองคิดถึงกองหลังฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ที่คว้าแชมป์และกลายเป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ในช่วงอาชีพการงานของเขา เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้อีก หลายปีหลังจากนั้น เขาได้พูดคุยเกี่ยวกับ “วันเก่าๆ” และเขาชอบเล่นฟุตบอล ทำทัชดาวน์ และเอาชนะทีมอื่นๆ มากเพียงใด ลูกชายและหลานชายของเขาขอร้องให้เขาบอกวิธีขว้าง และทีมโรงเรียนมัธยมปลายในท้องถิ่นก็เชิญให้เขาเป็นโค้ชกองหลังรุ่นเยาว์หรือแม้แต่กล่าวสุนทรพจน์สร้างแรงบันดาลใจ เขาไม่อยากทำมัน เพราะเขาติดอยู่กับอดีต เขาไม่เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขา เขาไม่ยอมปล่อยมันไป แล้วก้าวต่อไป

 

การบาดเจ็บที่เปลี่ยนแปลงชีวิตไม่ได้ส่งผลกระทบต่อร่างกายทุกครั้ง สิ่งที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมยังส่งผลต่อจิตใจของเราและทำให้จิตใจของเราแตกสลายได้ เมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น เช่นเดียวกับนักเตะกองหลัง เราสามารถเลือกว่าเราจะจดจ่ออยู่กับชีวิตก่อนเหตุการณ์เหล่านั้น และจมอยู่กับมันเป็นเวลาหลายปี หรือเราจะตัดสินใจทำตามคำแนะนำของอิสยาห์และไม่จดจำอดีตก็ได้ เราสามารถมองไปข้างหน้าด้วยศรัทธาว่าพระเจ้ากำลังทำสิ่งใหม่และวันข้างหน้าของเราจะดีกว่าเมื่อวาน

 

คำอธิษฐานประจำวัน: ข้าแต่พระบิดา ในพระนามของพระเยซู วันนี้ข้าพระองค์เลือกที่จะละทิ้งอดีต และยอมรับอนาคตอันสดใสที่พระองค์ทรงวางแผนไว้สำหรับข้าพระองค์  ข้าพระองค์รู้ว่ามันจะดีแน่นอน ในพระนามพระเยซู เอเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 joycemeyer.org

ดัดแปลงมาจากแหล่งข้อมูล Healing the Soul of a Woman   


ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


บทเรียนจากพระคัมภีร์ ฟิลิปปี 2:3

 


บทเรียนจากพระคัมภีร์   ฟิลิปปี 2:3

อย่าทำสิ่งใดด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างเห็นแก่ตัว หรือด้วยความถือดี แต่จงทำด้วยความถ่อมใจ ถือว่าคนอื่นดีกว่าตน

 

เราเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง พยายามวิ่งผ่านวันอันเหน็ดเหนื่อยเพื่อล้มตัวลงนอนบนเตียงโดยมีความต้องการบางอย่างของเรายังไม่ได้รับการตอบสนองมันยังคงเป็นภาระในใจของเรา

 

ด้วยความรับผิดชอบมากมายและความกดดันที่ต้องทำ การพัฒนาวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของเราจึงมีข้อบกพร่อง เพราะเราเอาแต่มุ่งเน้นไปที่ตัวเราเอง -ความฝันและความปรารถนาของเราอย่างเดียว คนอื่นกลายเป็นเพียงทรัพยากรในการบรรลุเป้าหมายหรือความรำคาญที่ขัดขวางความก้าวหน้าของเรา

 

พระเยซูทรงเรียกเราให้ห่างจากชีวิตที่เห็นแก่ตัวไปสู่ชีวิตแห่งความเสียสละ ตามแบบอย่างของพระองค์ ให้เราเรียนรู้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ มองดูผู้คนที่อยู่รอบข้างเรา ดูความต้องการของพวกเขา และทำในสิ่งที่เราสามารถทำเพื่อเขาได้ เมื่อครั้งเหล่าสาวกไล่เด็กๆ ที่รายรอบ พระคริสต์ออกไป พระองค์ทรงหยุดพวกเขาและดึงเด็กๆ เข้ามาเพื่อให้พร

 

ในภารกิจความเป็นความตาย พระองค์ทรงหยุดเพื่อหญิงที่มีปัญหาเรื่องตกเลือด ในวันสะบาโต ขณะที่พวกฟาริสีดูถูกเหยียดหยาม พระองค์ทรงรักษาชายที่มือลีบ

 

ในระหว่างภารกิจงานสำคัญพระองค์ทรงสังเกตและใช้เวลา อันที่จริง ผู้ก่อกวนและคนนอกรีตเป็นงานสำคัญของพระองค์ แทนที่จะผลักดันพวกเขาออกไปอยู่ชายขอบของสังคม พระองค์ทรงดึงโสเภณี คนฉ้อโกง คนพิการ และคนยากจนเข้ามาหาพระองค์

 

เราจะแลกความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัวกับการเสียสละได้ที่ไหน? เราจะเปลี่ยนความคิดอวดดีของเราเป็นความอาทรได้อย่างไร? ในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา ขอให้คุณมองดูไปรอบๆ ว่ามีใครหรือมีอะไรบ้างที่เราจะสามารถแสดงความเอื้ออาทรต่อเขาได้บ้าง

 

คำอวยพร:

ขอพระเจ้าอวยพรและปกป้องท่าน ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงมายังท่าน และทรงเมตตาต่อท่าน และประทานสันติสุขแก่ท่าน ขอให้พระเยซูประทานดวงตาให้ท่านมองเห็นคนรอบข้างท่านอย่างแท้จริง จงมองขึ้นไปและมองไปรอบ ๆ เมื่อท่านได้รับใช้แม้ในเรื่องที่ดูเล็กน้อยที่สุด ท่านก็ได้ทำเช่นเดียวกับพระองค์แล้ว

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Jhm.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

จงรักศัตรู

 


บำเหน็จใหญ่หลวง

 แต่จงรักศัตรูของท่าน จงทำดีต่อเขา และให้เขายืมโดยไม่หวังจะได้อะไรคืนมา แล้วท่านจะได้รับบำเหน็จใหญ่หลวงและจะได้เป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุดเพราะพระองค์ทรงกรุณาต่อคนอกตัญญูและคนชั่ว

ลูกา 6:35

 

พระเจ้าเคยขอให้คุณทำอะไรที่พิเศษๆ เพื่อคนที่เคยทำร้ายคุณบ้างไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันแน่ใจว่าคุณต้องรู้สึกว่ามันยากมากที่จะทำเช่นนั้นได้ เพราะฉันก็เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อน บางทีคุณอาจต้องใช้เวลามากมายในชีวิตในการอวยพรแก่คนที่ไม่เคยอวยพรคุณเป็นการตอบแทน ในกรณีนี้ อย่ามัวแต่ขมขื่นอยู่เลยแต่จงวางใจให้พระเจ้าตอบแทนบำเหน็จนั้นแก่คุณ

 

โดยทั่วไปแล้วธรรมชาติของมนุษย์บ่งบอกว่าเราสามารถรักคนที่รักเราได้เสมอ และชายและหญิงที่ไม่ได้รับความรอดพิสูจน์ว่าสิ่งนี้เป็นความจริง การรักผู้ที่รักเราเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และอาจจะมีแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวซึ่งแฝงอยู่ในความรักของมนุษย์ด้วย  แต่พระเยซูทรงบอกเราว่าถ้าเรารักเฉพาะคนที่รักเรา หรือทำดีเฉพาะต่อผู้ที่ทำดีต่อเรา เราจะเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าได้อย่างไร เพราะคนบาปก็ยังทำเช่นนั้นด้วย

 

ในโลกนี้ความรัก การให้ยืม และการให้ผู้อื่น มักมีเจตนาแอบแฝงอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น สถาบันการเงินจะให้กู้ยืมเฉพาะผู้ที่เขามั่นใจว่าคนเหล่านั้นจะสามารถชำระคืนเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นธนาคารที่เป็นมิตรหรือผู้ใจดีที่ให้ผู้อื่นยืม ก็มักมีความคาดหวังว่าพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนบางประเภทกลับมาบ้างไม่มากก็น้อย นี่อาจเป็นวิถีของโลก แต่พระเยซูทรงแนะนำมาตรฐานจากสวรรค์ที่สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตที่ได้รับการไถ่แล้วเท่านั้น ตามที่ได้รับมอบอำนาจมาจากเบื้องบน

 

พระเยซูทรงเรียกร้องให้เรารักศัตรูและมิตรสหายของเรา เราต้องรักศัตรูของเราและอธิษฐานเผื่อผู้ที่เป็นศัตรูกับเรา เราต้องรักผู้ที่ต่อต้านเราและผู้ที่เป็นศัตรูต่อเรา และเราได้รับการเตือนให้ทำดีต่อพวกเขา พระเยซูทรงเรียกให้เราทำความดีและให้ผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน นี่ไม่ใช่พฤติกรรมปกติของมนุษย์ แต่เป็นพฤติกรรมที่พระเจ้าทรงคาดหวังจากคริสตชนผู้ถวายเกียรติแด่พระองค์ในการกระทำต่อผู้อื่น

 

อย่าลืม สิ้นสุดวันของคุณด้วยการแสดงน้ำใจต่อใครสักคนนะคะ

 

คำอธิษฐานประจำวัน: ข้าแต่พระบิดา ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ดำเนินชีวิตด้วยความเมตตาต่อผู้อื่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่ทำร้ายข้าพระองค์ ข้าพระองค์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพระองค์ ในนามพระเยซู เอเมน

 

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 

joycemeyer.org

ดัดแปลงมาจากแหล่งข้อมูล Ending Your Day Right  

 

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

บทเรียนจากพระคัมภีร์ ลูกา 9:23

 


บทเรียนจากพระคัมภีร์   ลูกา 9:23

จากนั้นพระองค์ตรัสกับเขาทั้งปวงว่า “หากผู้ใดปรารถนาจะตามเรามา เขาต้องปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา

 

มีสงครามของความปราถนาโหมกระหน่ำอยู่ในตัวเราแต่ละคน มันเป็นการล่อลวงเราให้เลือกระหว่างความปรารถนาที่อยากจะทำสิ่งที่ถูกต้อง แบะความปรารถนาที่อยากจะทำในสิ่งที่เราถูกใจ(สิ่งที่ตรงกันข้ามกับพระคำ) มันคอยขัดแย้งกันอยู่เสมอในใจเรา

 

เราแต่ละคนต่อสู้กับการล่อลวงที่เกิดจากธรรมชาติเนื้อหนังของเรา บาปเกิดขึ้นตามธรรมชาติกับ “ตัวตนเก่า” ของเรา คือ ผู้ที่เราเคยเป็นก่อนที่เราจะรับพระเยซูมาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

 

เมื่อเรามาหาพระเยซู พระวิญญาณของพระเจ้าทรงเรียกเราให้เป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น เราก็ถูกตรึงไว้กับพระคริสต์ – ตายต่อบาปและมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ เราละทิ้งความประพฤติบาปในอดีตที่เราเคยปฏิบัติด้วยตัณหาและความปรารถนาของมัน เราไม่ใช่ทาสของความบาปอีกต่อไป

 

ถ้าเราติดตามพระเยซู เราก็ปฏิเสธตัวเอง – อย่าทำตามความปรารถนาในธรรมชาติบาปของเรา เราต้องแบกไม้กางเขนของเราทุกวัน นั่นคือ การตายต่อการกระทำของร่างกายไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็ตามที่ต่อต้านพระเจ้า เราต้องทำตามแบบอย่างของพระองค์ ไม่ว่าจะ ในทัศนคติ คำพูด และการกระทำของเรา

 

ธรรมชาติเก่าของเราทำสงครามกับสิ่งใหม่ แต่เราไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง! พระวิญญาณองค์เดียวกับที่ทำให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากความตายก็สถิตอยู่ในเรา เวลานี้ พระองค์ทรงให้อำนาจเราในการละทิ้งตัวตนเก่าของเรา คือการตายต่อบาปและมีชีวิตอยู่เพื่อพระเจ้าในพระเยซูคริสต์ เราไม่จำเป็นต้องกลัวว่าเราจะกลับเข้าสู่พันธนาการแห่งบาปอีกครั้ง หากพระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา ไม่มีอะไรสามารถต้านทานเราได้อีก

 

คำอวยพร:

ขอพระเจ้าอวยพรและปกป้องท่าน ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงมายังท่าน และทรงเมตตาต่อท่าน และประทานสันติสุขแก่ท่าน ด้วยอำนาจแห่งพระวิญญาณของพระองค์ ขอให้ท่านทิ้งตัวตนเก่าของท่านซึ่งกำลังถูกทำให้เสื่อมโทรมไปโดยตัณหาอันล่อลวงของมัน และทุกการกระทำแห่งความมืดมิด โดยทางพระคริสต์ คุณเป็นมากกว่าผู้พิชิต!

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Jhm.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

บทเรียนจากพระคัมภีร์ อิสยาห์ 6:8

 


บทเรียนจากพระคัมภีร์   อิสยาห์ 6:8

และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์เจ้านายตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป? และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา? ” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”

 

ผู้สร้างความแตกต่างมักมาในทุกรูปทรง ขนาด สี และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไป พวกเขาจะไม่มีความสามารถพิเศษหรือพรสวรรค์พิเศษที่ทำให้พวกเขาดูแตกต่างจากคนอื่นๆ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกัน? คือ ความเต็มใจ.

 

พวกเขาตัดสินใจที่จะดำเนินชีวิตด้วยทัศนคติแห่งความกตัญญู พวกเขาตั้งใจที่จะรับใช้พระองค์ เป็นเครื่องบูชาแห่งการสรรเสริญและขอบพระคุณ พวกเขาเพียงแค่เต็มใจที่จะมุ่งหน้าทำไป

 

ทัศนคติแห่งความกตัญญูหมายถึงการสร้างนิสัยในการแสดงความขอบคุณเป็นประจำทั้งในเรื่องใหญ่และเล็ก เราอาจรู้สึกขอบคุณสำหรับความสัมพันธ์ สุขภาพ ธุรกิจ การเรียน การงาน สิ่งของ อาหารในตู้ น้ำประปาในบ้าน และความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีโดยรวมของเรา

 

ในอิสยาห์บทที่ 6 อิสยาห์มีนิมิตอันน่าเกรงขามของพระเจ้าที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีภาพและรายล้อมไปด้วยเหล่าทูตสวรรค์ พระเจ้าตรัสถามว่า “ใครจะไป?” อิสยาห์โพล่งออกมาทันทีว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”

 

เขาไม่ได้จดรายการทักษะของตนเอง - จัดทำรายการความบกพร่องทั้งหมดของเขา หรือแม้แต่หาข้อแก้ตัวว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถรับอาสาทำงานนี้ได้ แต่เขายอมจำนนโดยสมบูรณ์ เขาพูดเพียงว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”

 

ความแตกต่างนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมือนกับผู้สร้างความแตกต่าง  เช่น ผู้หญิงที่ช่วยกล่อมเด็กทารกที่โรงพยาบาลท้องถิ่น หรือผู้ชายที่ช่วยขับรถตู้ของโบสถ์ หรือผู้ที่ช่วยเสิร์ฟอาหารในสถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน หรือคนที่ทำงานเป็นแมสเซนเจอร์เพื่อช่วยให้คนอื่นๆส่งงานได้ทันเวลา มันง่ายพอ ๆ กับการมองเห็นความต้องการและก้าวเข้ามาเพื่อตอบสนองความต้องการนั้น

 

วันนี้พระเจ้าจะยังคงถามว่า “ใครจะไป?” ให้เรา  กล้าพอที่จะพูดว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด”  และรู้สึกขอบคุณมากพอที่จะไปรับทำหน้าที่นั้นๆ จงมุ่งมั่นที่จะสร้างความแตกต่างเถิด 


ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุด หรือต้องมีความโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อเป็นคนงานของพระเจ้า ขอเพียงคุณมีหัวใจรักและรับใช้  มีใจที่รู้ขอบพระคุณ และยอมจำนนโดยสมบูรณ์อย่างอิสยาห์ คุณก็สามารถทำงานของพระองค์เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับโลกได้แล้ว

 

คำอวยพร:

ขอพระเจ้าอวยพรและปกป้องท่าน ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ฉายแสงมายังท่าน และทรงเมตตาต่อท่าน และประทานสันติสุขแก่ท่าน ขอให้ท่านเต็มใจ จงมั่นใจและกล้าหาญเพราะพระเจ้าสถิตอยู่กับคุณ ในพระนามของพระองค์ คุณจะเป็นผู้สร้างความแตกต่าง!

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

 

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Jhm.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 


พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...